วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สารหนู : ภัยร้ายในอาหาร

              สารหนูเป็นธาตุกึ่งโลหะ เป็นสารที่มีลักษณะเป็นผงโลหะสีเทา มีมากเป็นอันดับที่ 20 ของธาตุที่พบมากบนโลก โดยจะพบในสิ่งที่มีชีวิตพืชและสัตว์ ตลอดจนพบตามธรรมชาติ
สารหนูที่พบในธรรมชาติมี 2 แบบ คือ
1. สารหนูอินทรีย์ (Organic)  
2. สารหนูอนินทรีย์ (Inorganic) ซึ่งจะมีพิษร้ายแรงกว่าธาตุสารหนูอินทรีย์
แหล่งที่มาของสารหนู        
สารหนูเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ และด้วยฝีมือมนุษย์ ดังนี้
1. ในธรรมชาติ เกิดจากการชะล้างของหินและแร่ที่มีสารหนูเป็นองค์ประกอบ เช่น        อาร์ซีโนโพไรท์ ทำให้พบสารหนูทั่วไปในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในดินพบได้ตั้งแต่ 0.1-40 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และอาจพบได้ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบ แม่น้ำ น้ำบ่อ น้ำพุ
2. กิจกรรมของมนุษย์ ทำให้สารหนูในสิ่งแวดล้อมเพิ่มปริมาณขึ้น เช่น การทำเหมืองแร่ การถลุงโลหะ การใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในการเกษตร สารหนูยังถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าวัชพืช น้ำยาถนอมเนื้อไม้ บางครั้งมีการนำมาผสม ในอาหารสัตว์ ในยาคนและยาสัตว์

สารหนูเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร
สารหนูสามารถเข้าสู่ร่างกายคนเราได้โดย    
1. การสัมผัสผิวหนังและการหายใจ
2. การรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนของสารหนู
3. เข้าสู่ร่างกาย จากการบริโภคอาหารแล้วจะดูดซึมผ่านทางเดินอาหารมากกว่าวิถีอื่น สารหนูนี้เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะถูกขจัดออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว มีงาน ศึกษาวิจัยพบว่าประมาณ 80-90% ของสารหนูที่เข้าสู่ร่างกายนั้นจะถูกขจัดออกจากร่างกายทางปัสสาวะภายใน 2 วัน
การปนเปื้อนของสารหนูลงสู่อาหาร
แหล่งที่พบ
มิลลิกรัม/กิโลกรัม
สัตว์และพืชทะเล
0.5-50
ปลาน้ำจืด
10
พืชบนพื้นดิน
0-20
ข้าว
150-250
อาหารสัตว์ เช่น Fish meal
0-100
น้ำแร่ และน้ำบรรจุขวดต่างๆ
200
 
อันตรายของสารหนู
พิษของสารหนูนั้นมีทั้งแบบเฉียบพลัน (Acute Toxicity) และเรื้อรัง (Chronic Toxicity)
           •อาการเฉียบพลัน สารหนูทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่ออวัยวะที่สัมผัสกับสารหนูและอาจ ทำให้คลื่นไส้ อาเจียนเป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็ง อาการแทรกซ้อนเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจและเสียชีวิตจากการทำงานล้มเหลวของ หัวใจ
           •อาการพิษเรื้อรัง เกิดจากการได้รับสารหนูติดต่อกันเป็นเวลานาน สารนี้จะทำให้เกิดแผลเป็นหรือเป็นรูที่ช่องจมูก ผิวหนังหนาขึ้น มีรอยด่างดำที่ผิวหนัง อาจมีเส้นสีขาวบนเล็บ นอกจากนี้สารนี้ยังทำให้เกิดอาการชาตามปลายมือปลายเท้า มีความรู้สึกแสบร้อน มีอาการอ่อนเพลียของแขนขา และอาจเป็นมะเร็งผิงหนังและปอด รวมทั้งมีผลต่อทารกในครรภ์ และมีฤทธิ์ก่อการกลายพันธุ์
             ปริมาณสารหนูที่คนกินแล้วเป็นพิษ ถึงขั้นเสียชีวิตนั้นอยู่ในช่วง 1.5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (Arsenic triocidde) ถึง 500 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (Diethy1 arsenic acid)
การรักษา
กรณีเป็นพิษเฉียบพลัน
1. รีบล้างท้องโดยเร็วหากได้รับทางการรับประทาน อาจจะใช้สารดูดซับประเภทอัลตราคาร์บอนก็ได้
2. ป้องกันและแก้ไขภาวะการช็อก เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากการอาเจียนและท้องร่วง
3. ใช้ยาที่ช่วยดึงสารหนูออกจากร่างกาย (Chelating agent)
4. การล้างไต
         
กรณีพิษเรื้อรัง     
1.ต้องหยุดการสัมผัสสารหนูทันที เช่น หยุดการใช้ยาที่พบว่ามีสารหนูเกินมาตรฐาน
2.รักษาตามอาการ
3.อาจพิจารณาใช้ยาจับดึงสารหนูออกจากร่างกายในกรณีที่จำเป็น ซึ่งในปัจจุบันมี 3 ชนิด ดังนี้ Dimercaprol (Bal in Oil) ,Succimer (dimercaptosuccinic acid : DMSA),
Penicillamine
ประโยชน์และโทษ     
                                                       
1. เมื่อเข้าไปในร่างกายทั้งโดยการกินและการหายใจจะทำลายระบบทางเดินอาหารและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
2. ใช้เป็นยาเบื่อหนูและเป็นที่มาของชื่อ "สารหนู" ในภาษาไทย
3. สารแก้พิษสารหนูที่ดีคือสารแขวนลอยของแมกนีเซียมหรือเฟร์ริกไฮดรอกไซด์ หรืออาจใช้น้ำปูนใส (แคลเซียมไฮดรอกไซด์) เนื่องจากสารดังกล่าวทำให้อาร์เซไนต์ที่ไม่ละลายเกิดตกตะกอนออกมา
4. ใช้สารหนูเป็นองค์ประกอบของยารักษาโรคซิฟิลิส
5. สารหนูยังใช้ในการทำทองบรอนซ์และทำดอกไม้ไฟ นอกจากนี้ในการทำแบตเตอรี่สะสมไฟฟ้าถ้าผสมสารหนูเล็กน้อย ตะกั่วและพลวงจะทำให้ได้โลหะผสมที่มีคุณภาพดีขึ้น


ที่มา

พิษ “มะเฟือง” ถึงตาย



 

          หลาย เสียงเล่าลือกันถึงเรื่องของพิษที่มีอยู่ใน..."มะเฟือง" ส่งผลทำให้มีอันตรายถึงชีวิตจากภาวะไตวายเฉียบพลัน เพื่อให้คลายสงสัย รศ.นายแพทย์ ม.ล.ชาครีย์ กิติยากร อายุรแพทย์ หน่วยโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความกระจ่างว่า...มะเฟืองเป็นผลไม้เขตร้อนที่คนไทยรู้จักมาเนิ่นนาน แต่ในจำนวนคนไทย 67 ล้านคน มีน้อยคนนักที่จะทราบว่า...พิษของมะเฟืองมีผลต่อสุขภาพของไตและ...อาจทำให้ เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้

          คุณหมอชาครีย์ บอกว่า "ไต"... เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อระบบในร่างกายของเรา มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่วเหลือง มี 2 ข้างอยู่บริเวณบั้นเอว ไตเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางเดินปัสสาวะ ส่วนที่ต่อจากท่อไต (URETER) ซึ่งจะนำปัสสาวะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ และเข้าสู่ท่อปัสสาวะ (URETHRA) ในเพศชายจะมีต่อมลูกหมากอยู่โดยรอบท่อปัสสาวะ

          หน้าที่สำคัญของไต หนึ่ง...ขับถ่ายของเสียที่เกิดจากการแตกตัวของโปรตีนในอาหารออกจากร่างกาย สอง...รักษาสมดุลของน้ำ เกลือแร่ กรดและด่างของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สาม...ควบคุมความดันโลหิต สี่...สร้างฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก

          ความหมายของภาวะไตวาย คือ ภาวะที่มีการสูญเสียการทำงานของไต แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

          ชนิดแรก...ไต วายเรื้อรัง คือการสูญเสียการทำงานของไต ที่เป็นไปอย่างช้าๆ และถาวร ช่วงเวลาอาจตั้งแต่ 1-2 ปี จนถึง 10 ปีขึ้นไป จนในที่สุดเข้าสู่ภาวะสุดท้ายของไตวาย (END STAGE RENAL FAILURE) ซึ่งหมายถึง ภาวะที่ต้องการการรักษาแบบทดแทน เช่น ฟอกเลือด, เปลี่ยนไตเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้

          ชนิดที่สอง...ไต วายเฉียบพลัน ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นชั่วโมง หรือ เป็นวัน ทำให้เกิดการคั่งของของเสียทำให้เกลือแร่ กรด ด่าง และการควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายผิดปกติ "ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีปริมาณปัสสาวะต่อวันน้อยกว่า 400 ซีซี"

          คุณ หมอชาครีย์ บอกอีกว่า สาเหตุของไตวายเฉียบพลัน มีหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย...การอุดตัน ผู้ป่วยที่ช็อกจากการติดเชื้อ, เสียเลือดจำนวนมาก หรือขาดน้ำอย่างรุนแรงจากท้องเสีย การใช้คำว่า "เฉียบพลัน" นอกจากบ่งถึงช่วงเวลาระยะสั้นที่เกิดขึ้นแล้ว ยังบ่งถึงความเป็นไปได้ ที่ไตจะกลับสู่ภาวะปกติได้

          คนไทยรู้จักมะเฟืองมานาน นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด หรือคั้นเป็นน้ำผลไม้ หรือรับประทานผลดิบเป็นผัก เช่น ในอาหารเวียดนาม "ใน บ้านเรามีรายงานเกี่ยวกับคนไข้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันหลังการรับประทานผลสด หรือน้ำมะเฟืองจำนวนมาก...เนื่องจากมะเฟืองเป็นพืชที่มีสารออกซาเลตสะสมอยู่ เป็นจำนวนมาก ปกติแล้วออกซาเลตสามารถละลายและถูกดูดซึมได้อย่างอิสระ แล้วถูกขับออกทางไต โดยสาเหตุของไตวายเฉียบพลันนั้น เพราะไตเป็นแหล่งที่มีสารต่างๆ หลายชนิด เมื่อสารออกซาเลตในมะเฟืองจับตัวกับแคลเซียมที่อยู่ในไต จะกลายเป็นผลึกนิ่วออกซาเลต ผลึกนิ่วจำนวนมากตกตะกอน หรืออุดตันในเนื้อไตและท่อไต ...ทำให้ไตวายหรือสูญเสียการทำงานไป" แต่กระนั้น...การเกิดภาวะไตวายไม่ได้เกิดกับผู้ป่วยทุกราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน และภาวะพร่องหรือขาดน้ำในผู้ป่วย

          หน่วย โรคไต โรงพยาบาลรามาธิบดี เคยพบกรณีคนไข้ในประเทศไทยมีอาการไตวายเฉียบพลัน จากการได้รับภาวะพิษจากการรับประทานผลมะเฟือง และได้ส่งรายงานไปต่างประเทศ ผู้ป่วยที่มีภาวะพิษต่อไต...เกิดขึ้นในหลายชั่วโมงถัดมา หลังรับประทานผลมะเฟือง ผู้ป่วยจะมาด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน กล่าวคืออาจจะมีปัสสาวะออกน้อยลง, บวมน้ำ, ความดันโลหิตสูงขึ้น, น้ำท่วมปอด, อ่อน เพลีย หรือ...บางรายอาจมาด้วยอาการสะอึก เนื่องจากของเสียในร่างกายคั่ง จากการที่ไตไม่สามารถขับของเสีย และน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้ และ...อาจจะต้องได้รับการฟอกเลือดล้างไตในที่สุด

          พบ ด้วยว่า ถ้ามีภาวะไตวายเฉียบพลันเกิดขึ้น หลังหยุดรับประทานมะเฟืองผู้ป่วยเดิมที่มีไตปกติ กว่าไตจะกลับมาทำงานได้ตามปกติอาจใช้เวลานาน ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่หากเป็นผู้ป่วยที่มีโรคไตเดิมอยู่ก่อนแล้ว การทำงานของไต อาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ไม่กลับมาเท่าเดิม และอาจจะต้องฟอกไตถาวร

 

          ผลการศึกษาปัจจัยการเกิดโรค พบว่าขึ้นอยู่กับชนิดมะเฟือง...มะเฟืองเปรี้ยวมีโอกาสเกิดโรคมากกว่ามะเฟืองชนิดหวาน เนื่องจากมีปริมาณกรดออกซาลิคมากกว่า "ถ้า รับประทานผลสดหรือผลไม้คั้น จะมีโอกาสเกิดโรคมากกว่า แต่ถ้าผ่านการดอง หรือแปรรูปหรือเจือจางในน้ำเชื่อม เช่น...ในน้ำมะเฟืองสำเร็จรูป จะทำให้ปริมาณออกซาเลตลดน้อยลง"

          ปริมาณ ที่รับประทาน พบว่าระดับออกซาเลต ที่เป็นพิษต่อร่างกายมีค่าตั้งแต่ 2-30 กรัมของปริมาณออกซาเลต...ผลมะเฟืองเปรี้ยวมีออกซาเลต ประมาณ 0.8 กรัม ในขณะที่มะเฟืองหวานมีออกซาเลต 0.2 กรัม สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่เดิมอาจมีไตวายเฉียบพลัน จากการรับประทานมะเฟืองเพียงเล็กน้อย

          นอก จากนี้ ระดับความรุนแรงยังขึ้นอยู่กับภาวะพร่องหรือขาดน้ำ จากการรายงานผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายหลังรับประทานมะเฟือง พบว่าผู้ป่วยดื่มน้ำมะเฟืองหลังจากการทำงานหนักหรือสูญเสียเหงื่อมาก จะยิ่งมีโอกาสเกิดโรคมากขึ้น เนื่องจากผลึกแคลเซียมออกซาเลตจะอิ่มตัว และตกผลึกง่ายขึ้นในเนื้อไต

          ใน ผู้ที่มีไตเรื้อรังอยู่ก่อนโดยเฉพาะผู้ที่ไตวายต้องล้างไตแล้ว มะเฟืองมีผลต่อระบบประสาทด้วย มีรายงานในผู้ป่วยกว่า 50 รายทั่วโลก...มะเฟืองอาจมีสารที่เป็นพิษกับระบบประสาท ซึ่งผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไปจากการที่สมองบวม จากการที่มีผลึกนิ่วออกซาเลตไปเกาะสมอง หรือการที่มะเฟืองมีสารพิษอื่นที่กระตุ้นสมอง สารพิษต่อสมองนี้จะสะสมในภาวะไตวาย ดังนั้น...การเกิดพิษลักษณะนี้พบได้น้อยมากในคนปกติ และผู้ป่วยมักต้องรับประทานผลมะเฟืองเป็นจำนวนมาก

          "ผู้ ป่วยไตวายอาจมีอาการทางสมองหลังรับประทานมะเฟืองทั้งชนิดหวานและชนิดเปรี้ยว เพียงหนึ่งผล อาการมักเริ่มไม่กี่ชั่วโมงหลังรับประทานมะเฟือง โดยผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน สะอึก ตามด้วยภาวะซึมหรือชัก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะดีขึ้นหลังหยุดรับประทานมะเฟือง หลังการล้างไตเพื่อเอาพิษมะเฟืองออก...อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตหลังรับประทานมะเฟือง"

          น่า สนใจที่ว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ยินข่าวผู้ป่วยจากพิษมะเฟือง เป็นไปได้ว่าที่ผ่านมามะเฟืองไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก ผลผลิตมะเฟืองในแต่ละปีก็มีจำนวนไม่มากอย่างผลไม้อื่นๆ คนส่วนใหญ่จะรับประทานในปริมาณน้อย และไม่รับประทานมะเฟืองเปรี้ยว

          แต่ ในช่วงหลังๆ มานี้...ได้มีบทความแพร่ทางสื่อออนไลน์ชวนให้รับประทานมะเฟืองสด โดยชี้แนะประโยชน์ทางสุขภาพ เช่น ลดน้ำตาลในเลือด หรือช่วยรักษาโรคอื่นๆ จึงอาจทำให้มีคนเชื่อ หันมาบริโภคมะเฟืองกันมากขึ้น

          ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ระบุชัดเจนถึงประโยชน์ของมะเฟือง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง มะเฟืองสดเป็นผลไม้ที่น่าจะเกิดโทษกับผู้ที่รับประทานมากเกินกว่าที่ร่างกาย จะทำลายพิษได้

          และ...ขึ้น อยู่กับสุขภาพของผู้บริโภคที่มีความเสี่ยงต่อภาวะไตวาย ผู้บริโภคสุขภาพปกติทานได้แต่ในปริมาณไม่มาก...ผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตควรหลีก เลี่ยง...โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีไตเสื่อม หรือมีความเสี่ยงต่อโรคไต ห้ามทานมะเฟืองทั้งเปรี้ยวและหวานเด็ดขาด

          คุณ หมอชาครีย์ย้ำทิ้งท้ายว่า โรคไตมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ผู้รักสุขภาพควรเอาใจใส่ต่อโภชนาการที่เหมาะสม และตรวจสุขภาพไตเป็นประจำทุกปี


ที่มา
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ครูผู้ช่วย กับ ครู ?????


พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉ.2)2545 บังคับใช้ทำให้ตำแหน่งที่เราคุ้นเคยไม่มีอีกต่อไปเช่น อ. 1ระดับ 3 อ.2 ระดับ 7 อ.3 ระดับ 8
มีตำแหน่ง 2 ตำหน่งครับ คือ ครูผู้ช่วย กับ ครู แล้วก็ชื่อวิทยฐานะ
ครูชำนาญการ   ครูชำนาญการพิเศษ  ครูเชี่ยวชาญ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
ครูที่ได้รับการบรรจุใหม่ จะมีชื่อเรียกว่า ครูผู้ช่วยครับ ผมเคยมีคนถามว่าครูผู้ช่วยมันเป็นครูจริงๆหรือเปล่าล่ะน้อง5555
ครูผู้ช่วยก็คือครูจริงๆนี่แหละครับ แต่เปลี่ยนชื่อใหม่ คือว่าจะต้องได้รับการประเมินอย่างเข้ม 8ครั้งคือระยะเวลาที่ทดลองงานจำนวน 2 ปี ประเมินทุกๆ3เดือนระยะเวลาถือว่านานกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก่อนทดลองงานแค่ 6 เดือนก็ผ่านการทดลองงานแล้ว
มีหลายๆอย่างประเมินทั้งด้านการเรียนการสอน คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ มาตรฐานวิชาชีพครู
มากมายสารพัด การปฎิบัติตน การสอนหนังสือ ก็ดีอย่างหนึ่งครับจะได้เลือกคนที่มีอุดมการณ์จริงๆมาสอนเด็กๆครับ
พอผ่านการทดลองงานก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นครู ค.ศ. 1 ครับ
เงินเดือนที่ได้ รุ่นผม บรรจุ ปี 2548 7,630 บาท รัฐบาลให้ค่าครองชีพ 1000 บาท (ปัจจุบัน2552 เงินเดือน 7,940 บาท ค่าครองชีพ 1,500 แต่รวมแล้วเงินเดือน+ค่าครองชีพไม่เกิน 11,700 บาท) ถ้าเกินก็จะลดค่าครองชีพเช่นผมในปัจจุบัน เงินเดือน 10,770
ค่าครองชีพเหลือ 930 เท่ากับ 10,770+930=11,700)
ความก้าวหน้าในชีวิตราชการครูเดี๋ยวนี้ไปได้ไกลมากครับ ยิ่งเป็นระบบใหม่ผ่านการทดลองงานแล้ว
ถ้าคุณมีวุฒิ ป.เอก คุณสามารถทำผลงานเพื่อเข้าวิทยฐานะ ครูชำนาญการได้เลย
แต่ถ้า ป.โท ก็ 4 ปี ป.ตรีก็ 6 ปี นับรวมย้อนหลังครูผู้ช่วย 2 ปี ด้วยครับ(ครูผู้ช่วย 2 ปี +คศ.1  2 ปี = 4 ปี มีวุฒิ ป.โท ทำวิทยะฐานะชำนาญการได้เลยครับ) (ป.ตรี ครูผู้ช่วย 2ปี + ครู ค.ศ.1  4 ปี = 6 ปี )
ครูชำนาญการ(ค.ศ.2)มีเงินวิทยฐานะ 3,500 บาท
ครูชำนาญการพิเศษ(ค.ศ.3) 5,600 บาท
ครูเชี่ยวชาญ (ค.ศ.4) 9,900 บาท ได้เครื่องราช ชั้น สายสะพายด้วยครับ เทียบเท่า ซี 9 ของข้าราชการอื่น
ครูเชี่ยวชาญพิเศษ (ค.ศ.5)13,000  บาท ตั้งแต่วิทยะฐานะชำนาญการพิเศษหรือค.ศ.3 ถึง ค.ศ.5 เงินวิทยะฐานะ x 2 น่ะครับ(ค.ศ.3 5600x2=11,200  ค.ศ.4 9,900x2=19,800
ค.ศ.5 13,000x2=26,000)
สิทธิที่พึงได้อีกครับ เจ็บป่วยรักษาพยาบาลฟรี พ่อแม่ ตัวเรา ถ้ามีลูกใช้สิทธิ ได้ 3 คน เบิกค่าเทอมได้จนจบป.ตรีครับ รวมแล้วเป็น 7 คน ถ้ามีแฟนเป็นข้าราชการเหมือนกันก็มีลูก สัก  6 คนครับ
ใช้สิทธิพ่อ 3 แม่ 3 ครับ555555 ปัจจุบันเจ็บป่วยน่ะครับไม่ต้องใช้เงินแล้วครับ แสกนลายนิ้วมืออย่างเดียว
นี้แหละครับที่มาของชื่อครูผู้ช่วยครับ


·         การเลื่อนระดับเงินเดือนของครู เลิกใช้ระบบซี มาใช้ระบบแท่งเงินเดือน  ทุกวันนี้มีบางท่านยังเรียกตำแหน่งของครูไม่ถูกต้อง เช่น   นายสมชาย  เสียงดี ตำแหน่ง ครู คศ.2 
·         คศ. ไม่ใช่ตำแหน่งของครู แต่เป็นแท่งเงินเดือน  ดังนั้นการพิมพ์ตำแหน่งของครูให้ถูกต้องต้องใช้ประโยคที่ว่า
·         นายสมชาย เสียงดี ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ  หรือ นางเพ็ญศรี เสียงดี ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ
·         ไม่ต้องบอกว่า นายสมชาย เสียงดี ตำแหน่งครูวิทยฐานะครูชำนาญการ รับเงินเดือนอันดับ คศ.2  เพราะวิทยฐานะครูชำนาญการ จะต้องรับเงินอันดับ คศ.อยู่แล้ว

ระบบแท่งเงินเดือน

ประเภทสายงานชื่อตำแหน่งชื่อวิทยฐานะ
ผู้สอนใน
หน่วยงานการศึกษา
การสอน
-ครูผู้ช่วย
-ครู
-ครูชำนาญการ
-ครูชำนาญการพิเศษ
-ครูเชี่ยวชาญ
-ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
ผู้บริหารสถานศึกษา
และผู้บริหารการศึกษา
บริหารการศึกษา
-รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
-ผู้อำนวยการสถานศึกษา
-รองผู้อำนวยการชำนาญการ
-รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
-รองผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ
-ผู้อำนวยการชำนาญการ
-ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
-ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ
-ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ
บุคลากรทางการศึกษานิเทศการศึกษาศึกษานิเทศก์
-ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ
-ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ
-ศึกษานิเทศกิ์เชี่ยวชาญ
-ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญพิเศษ


มาตรฐานตำแหน่ง

ชื่อตำแหน่ง
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่ง
ครูผู้ช่วย
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับครูผู้ช่วย
ครู
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งครูผู้ช่วยเป็นเวลา 2 ปีโดยผ่านการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎ ก.ค.ศ. หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เที่ยบเท่า
3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับ คศ.1
ผู้ดำรงตำแหน่งครูผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะครูชำนาญการ ครูชำนาญการพิเศษ ครูเชี่ยวชาญ หรือครูเชี่ยวชาญพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ..กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 คศ.3 คศ.4หรือ คศ.5 ตามลำดับ
รองผู้อำนวยการ
สถานศึกษา
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ 2 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ.เทียบเท่า
3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับ คศ.1
ผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการ  รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ หรือรองผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ  ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ..กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 คศ.3 หรือ คศ.4  ตามลำดับ
ผู้อำนวยการ
สถานศึกษา
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ ที่มีประสบการบริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่มมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือดำรงตำแหน่งครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ.เทียบเท่า
3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับ คศ.1
ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการ  ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ หรือผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ..กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 คศ.3  คศ.4 หรือ คศ.5  ตามลำดับ


มาตฐานวิทยฐานะ 

ชื่อตำแหน่ง
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่ง
ครูผู้ช่วย
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับครูผู้ช่วย
ครู
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งครูผู้ช่วยเป็นเวลา 2 ปีโดยผ่านการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎ ก.ค.ศ. หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เที่ยบเท่า
3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับ คศ.1
ผู้ดำรงตำแหน่งครูผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะครูชำนาญการ ครูชำนาญการพิเศษ ครูเชี่ยวชาญ หรือครูเชี่ยวชาญพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ..กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 คศ.3 คศ.4หรือ คศ.5 ตามลำดับ
รองผู้อำนวยการ
สถานศึกษา
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ 2 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ.เทียบเท่า
3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับ คศ.1
ผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการ  รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ หรือรองผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ  ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ..กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 คศ.3 หรือ คศ.4  ตามลำดับ
ผู้อำนวยการ
สถานศึกษา
1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2. ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ ที่มีประสบการบริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่มมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือดำรงตำแหน่งครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ.เทียบเท่า
3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
การรับเงินเดือน ให้รับเงินเดือนอันดับ คศ.1
ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการ  ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ หรือผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ..กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 คศ.3  คศ.4 หรือ คศ.5  ตามลำดับ

ที่มา 
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/197670
http://203.155.220.242/watchanglek/1.standard.htm

Windows 7 edition comparison chart

Windows 7 edition comparison chart
Features Starter Home Basic Home Premium Professional Enterprise Ultimate
OEM licensing Retail and OEM licensing in Emerging markets Retail and OEM licensing Retail, OEM and Volume licensing[35] Volume licensing[35] Retail and OEM licensing
End of Support[36] January 14, 2020;
7 years' time
January 14, 2020;
7 years' time
January 14, 2020;
7 years' time
January 14, 2020;
7 years' time
January 14, 2020;
7 years' time
January 14, 2020;
7 years' time
Maximum physical memory (RAM) (x64)[37] N/A 8 GB 16 GB 192 GB 192 GB 192 GB
Maximum physical memory (RAM) (IA-32)[37] 2 GB 4 GB 4 GB 4 GB 4 GB 4 GB
Incoming file and printer sharing connections[38] ? 5 10 10 10 10
32-bit and 64-bit versions 32-bit only Both[39] (64-bit disc not included) Both Both Both Both
Maximum physical CPUs supported[40] 1 1 1 2 2 2
Backup and Restore Center[41] Cannot back up to network (Backup to network and local hard disk, restore) Cannot back up to network Cannot back up to network Yes Yes Yes
Remote Desktop (Client and Host) Client only Client only Client only Yes Yes Yes
HomeGroup (create and join) Join only Join only Yes Yes Yes Yes
Built-in DVD (MPEG-2 and Dolby Digital) decoder[42] No No Yes Yes Yes Yes
Built-in AVCHD support[43] No Yes Yes Yes Yes Yes
Multiple monitors No Yes Yes Yes Yes Yes
Color depth N/A 32-bit 32-bit 32-bit 32-bit 32-bit
Fast user switching No Yes Yes Yes Yes Yes
Desktop Window Manager No Yes Yes Yes Yes Yes
Windows Mobility Center No Yes Yes Yes Yes Yes
Printing via Internet (IPP) No[44] Yes Yes Yes Yes Yes
Internet connection sharing No Yes Yes Yes Yes Yes
Windows Aero No Partial Yes Yes Yes Yes
Windows Parental Controls[38] No Yes Yes Yes Yes Yes
Multi-Touch No No Yes Yes Yes Yes
Premium Games Included No No Yes Disabled by default Disabled by default Yes
Windows Media Center No No Yes Yes Yes Yes
Windows Media Player Remote Media Experience[45] No No Yes[46] Yes[46] Yes[46] Yes[46]
Dynamic Disks[47] No No No Yes Yes Yes
Encrypting File System No No No Yes Yes Yes
Location Aware Printing No No No Yes Yes Yes
Presentation Mode No No No Yes Yes Yes
Group Policy[48] No No No Yes Yes Yes
Offline Files and Folder redirection[48] No No No Yes Yes Yes
Windows Server domain joining No No No Yes Yes Yes
Windows XP Mode[49] No No No Yes Yes Yes
Software Restriction Policies No No No Yes Yes Yes
Remote Administration Tools No No No Yes Yes Yes
Active Directory Lightweight Directory Services (AD LDS, formerly Active Directory Application Mode or ADAM) No No No Yes Yes Yes
AppLocker No No No Create Policies, but Cannot Enforce Create and Enforce Policies Create and Enforce Policies
Aero glass remoting[50][51] No No No No Yes Yes
Windows Media Player multimedia redirection[51] No No No No Yes[46] Yes[46]
Audio recording over Terminal Services[51] No No No No Yes Yes
Multi-display Terminal Services[51] No No No No Yes Yes
Enterprise Search Scopes[48]:130 No No No No Yes Yes
Federated Search[52] No No No No Yes Yes
BitLocker Drive Encryption No No No No Yes Yes
BranchCache Distributed Cache No No No No Yes Yes
DirectAccess No No No No Yes Yes
Subsystem for Unix-based Applications No No No No Yes Yes
Multilingual User Interface Pack No No No No Yes Yes
Virtual Desktop Infrastructure (VDI) Enhancements[48]:130 No No No No Yes Yes
Virtual Desktop Infrastructure (VDI) Licensed[53] No No No No Yes Yes
Virtual Hard Disk Booting No No No No Yes Yes
Switching between any of the 35 available languages[54] No No No No Yes[55] Yes

Starter Home Basic Home Premium Professional Enterprise Ultimate