วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

PCM ปะทะ DTS , DTS-HD Master Audio , DTS-HD HiRes, Dolby Digital+ , Dolby TrueHD (bitstream)


File:PCM-vs-DSD.svg
PCM , DTS , DTS-HD Master , Dolby Digital , Dolby TrueHD ทุกอันเป็นรูปแบบไฟล์เสียงชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในแผ่นหนังที่เราดู DVD / Bluray
จะเรียกว่าเป็นสกุลของไฟล์เสียงก็ได้ โดยถ้าเราแกะไฟล์เสียงออกมาจากแผ่นหนัง
เราจะได้ไฟล์เสียงดังนั้น
- บันทึกเสียงมาแบบ PCM ==> ได้ไฟล์ *.wav (หรือ format อื่นๆที่บันทึกมาแล้วแต่โปรแกรม)
- บันทึกเสียงมาแบบ DTS ==> ได้ไฟล์ *.dts
- บันทึกเสียงมาแบบ Dolby ==> ได้ไฟล์ *.ac3



PCM เป็นไง ?
ว่ากันง่ายๆ PCM เป็นไฟล์เสียงที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะมันคือไฟล์เดิมๆดิบๆ ขนาดก็ใหญ่สุดๆ
เพราะไม่มีการบีดอัด (หรือ zip compress ) มาเลย
- ข้อดี คือ มันเป็นเสียงที่คุณภาพสูงสุด ไม่มีการสูญเสียคุณภาพ lossless เสียงใสอย่างแท้แน่นอน
- ข้อเสีย คือ เมื่อขนาดมันใหญ่ การจะสตรีมไฟล์ไปยังเครื่องเสียงเพื่อเล่นไฟล์เสียง มันถูกจำกัดด้วย bandwidth ของสายว่า สายส่งได้ไหวไหม
เช่น ถ้าเราใช้สาย coxial หรือ optical เราจะสตรีมได้เพียง PCM 2.1ch 192khz (PCM Stereo)
เพราะแบนวิทของสายสองประเภทนี้มันมากได้สุดแค่นี้

ปัญหาคือ หนังเค้าทำออกมาเสียง 5.1channel หรือ 7.1channel
ครั้นจะใช้รูปแบบเสียง PCM มันก็สตรีมไฟล์ผ่านสายพวกนี้ไม่ได้ ก็เพราะสายมันใหญ่ไม่พอที่จะส่งข้อมูล
เขา(ใครสักคน)เลยคิดค้น การบีบอัดขนาดไฟล์ PCM ให้ขนาดเล็กลงขึ้นมา มันก็เหมือน mp3 นี่แหละ
เพียงแต่มันต้องบีบอัดเสียงที่มี channel เยอะๆเช่น 5.1 หรือ 7.1 ได้ด้วย เพราะจะเอามาใช้กับหนัง
เลยไม่ได้เรียกว่า mp3 เพราะเจ้านั่นมันรองรับแค่ 2channel แค่นั้น
เจ้าฟอร์แมท DTS และ Dolby จึงเกิดขึ้นมา



DTS และ Dolby Digital เป็นไง?
มันก็เป็น format ไฟล์เสียงรูปแบบหนึ่ง
ในยุคแรกๆ เค้าก็เน้นในเรื่องเทคนิคการบีบอัดไอ้เจ้าเสียง PCM นี่แหละให้มันเล็กลง
ซึ่งเล็กลงได้มากๆเลย (เหมือนเรา zip ไฟล์ หรือ rip CD เป็น mp3 น่ะ เล็กหลายเท่าแบบนั้นแหละ)
- ข้อดี คือ มันเล็กไง เล็กมาก ทีนี้ก็สตรีมข้อมูลเสียง 5.1 , 7.1ผ่านสาย coxial , optical ได้ละ ไม่มีปัญหา
- ข้อเสีย คือ การบีบอัดใช้เทคนิคเหมือนๆ mp3 (แต่อาจจะดีกว่าหน่อยหรือเปล่าไม่รู้) มันก็ต้องมีสูญเสียคุณภาพเสียงไปบ้าง
ถ้า หูทองมาฟังอาจจะรับไม่ได้ เสียงมันไม่ใสปิ้ง เครื่องเสียงแพงๆเท่านั้นที่ฟังออกมั้ง เนื่องจากถูกนำมาใช้กับหนัง ไม่ใช้กับเพลง หูทองเลยไม่ค่อยแขวะเท่าไหร่ เพราะพวกนั้นไม่ค่อยดูหนังมั้ง

และ ข้อเสียอีกอัน(ที่ผู้ใช้เจ็บแสบสุดๆ) คือ เมื่อสตรีมได้แล้วก็จริง แต่ไอ้เครื่องเสียงที่รับสัญญาณน่ะก็ต้องรองรับการอ่านไฟล์ dts ,dolby ac3 ได้ด้วยนะจ๊ะ
(หรือเรียกว่า เครื่องเสียงต้องถอดรหัสได้ด้วย เช่นต้องมี logo แปะหน้าเครื่องน่ะแหละ)
มันเลยเป็นจุดขายไง ว่าเครื่องเสียงตัวนั้นตัวนี้รองรับ dts ไหม/รองรับ dolby ไหม...
ซึ่งถ้ามันรองรับแล้วจบแค่นั้น มันก็คงดี....!

แต่ธุรกิจก็คือธุรกิจ...ทีนี้พ่อค้าก็คิดสิ จะทำไงถึงจะขายเครื่องเสียงได้เรื่อยๆล่ะ ก็ออกรูปแบบไฟล์ใหม่ๆมาเรื่อยๆ
ต้องออกแบบให้ เครื่องเก่ามันไม่สามารถอาจถอดรหัสได้ หรือได้แต่ไม่เต็มร้อย
ทีนี้มันก็ออกลูกออกหลาน format ใหม่ๆมาตรึมเลยสิ !!! เช่น
บริษัท Dolby digital ก็ออกลูกเป็น dolby digital plus+ , dolby TrueHD
บริษัท DTS ก็ออกลูกเป็น dts HD , dts HD-HR , dts MasterHD
และก็คงมีตามออกมาอีกเป็นพลวนในอนาคต
(ดีนะ มีแค่สองบริษัท ไม่งั้นเครื่องเสียงคงต้องแปะ logo กันรอบเครื่อง ก็ยังไม่พอ)



DTS-HD Master/HR และ Dolby TrueHD เป็นไง ?
ก็อย่างที่บอก มันคือลูกหลานของ dts และ dolby digital น่ะแหละ
แต่ก็พัฒนาขึ้น (แต่จริงๆผมว่ามันไม่ได้พัฒนาเลยต่างหาก)

มาดูในแง่การพัฒนา คือ การบีบอัดไฟล์เสียงให้ขนาดเล็กลง แต่ไม่ให้คุณภาพสูญเสียเหมือนกับในระบบยุคแรกๆ
(เค้าเรียกว่า lossless หรือก็เหมือนการ zip ไฟล์ - แต่ไม่เหมือน mp3 ละนะ...อันนี้จะเหมือนไฟล์ flac เลยก็ว่าได้)
...แง่ที่ผมว่ามันไม่พัฒนา คือ มันก็แค่บีบให้เล็กลง โดยไม่ไปแตะต้องตัวไฟล์เลย
ก็ทำนองบีบ zip ไว้เฉยๆ (เหมือนเอา winzip winrar มาบีบไฟล์น่ะแหละ พอคลายออกมาก็เหมือนเดิม)
- ข้อดี คือ คุณภาพเสียงเต็ม 100% คุณภาพเหมือน PCM เลยแหละ เสียงใสปิ้งๆๆ และ ขนาดก็เล็กกว่า PCM
- ข้อเสีย คือ ขนาดมันเล็กลงจริง แต่ดันไม่ได้เล็กลงมากพอที่จะส่งผ่านสาย coxial , optical ได้อีกแล้วน่ะสิ !
และที่สำคัญคือ " it's a ธุรกิจ - เชิญกลับไปอ่านด้านบนเลย...อยากฟังเสียงดี ตรูต้องซื้อเครื่องเสียงใหม่ที่รองรับระบบใหม่อีกละ "




แต่ๆๆๆๆ......การมาของ DTS-HD , DolbyTrueHD มันก็ไม่ได้เสียเปล่า
เพราะมันช่วยกระตุ้นการพัฒนาสายสัญญาณ HDMI ซึ่งมาแทนที่สาย coxial , optical
ว่าง่ายๆคือสาย HDMI ณ ตอนนี้มันมีแบนวิทสูงปรี้ดดด และยังสามารถพัฒนาต่อเรื่อยๆ ยังไม่จบ
ตอนนี้ก็พัฒนาสายถึง version 1.4a ที่สามารถส่งไฟล์แบนวิทสูงๆได้มากกว่า HDMI ver.ยุคแรกๆหลายเท่าทวีคูณ
ฉะนั้นการจะสตรีมข้อมูลไฟล์เสียง DTS-HD , DolbyTrueHD ก็จะต้องใช้สาย HDMI เท่านั้นนี่แหละ



มาถึงตรงนี้หลายๆคนคงลืม PCM ไปแล้วหรือเปล่าไม่รู้ !!!
อาจเพราะการโฆษณาทำให้เราหน้ามืดตามัวไปกับแสงสี ที่ปิดหูปิดตา ปิดจนเราไม่รับรู้ว่าอะไรคืออะไร
และจนลืมไปว่า ที่สุดของที่สุดมันคือไฟล์ PCM นะเฟร้ย ไม่ใช่ใครอื่น
ซึ่งไอ้ HDMI ณ บัดนาว มันก็มีแบนวิทมากพอที่จะส่งไฟล์ PCM 7.1channel 192khz ขนาดมหึมา ได้แล้ว!!
อ้าว งั้นตรูหันมาใช้ PCM นิยายมันก็จบละสิ ?....จริงๆมันก็น่าจะจบแบบนั้นแหละ แต่ธุรกิจมันก็คือธุรกิจ

ด้วยความโชคดีที่เครื่องเสียงเกือบร้อยทั้งร้อยมันดันอ่าน PCM ได้มาช้านานแล้ว (แต่หลายคนไม่รู้ หรือไม่เคยได้สนใจ)
ครั้นจะตัดออก ก็ไม่ได้ เพราะมันคือรูปแบบหลัก
ทีนี้ถ้าเครื่องอ่านแผ่นหรืออ่านไฟล์มันสามารถถอดรหัส dts , dolby เป็น PCM ได้
มันก็หมดปัญหา นิยายก็จบ ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องเสียงบ่อยๆๆๆๆ
ใช้กันยาวๆ เปลี่ยนแค่เครื่องเล่นไม่กี่พัน ก็พอ

พ่อค้าก็หาทางพยายามไม่ให้เครื่องอ่านแผ่นหนัง เครื่องเล่นไฟล์หนัง ถอดรหัสเสียงเป็น PCM แบบหลายๆ channel ได้
หลายๆเครื่อง(Brandname เกือบทั้งหมด) จะจำกัดไว้ให้ถอดเป็น PCM ได้ แต่ได้แค่ stereo 2ch.
หรือบางเครื่องสตรีมไปเครื่องเสียงได้อย่างเดียว ถอดรหัสเป็น PCM เองไม่ได้
คนรวยแต่ไม่รู้เรื่อง ก็เลยต้องอัพเกรดกันต่อไป อัพทั้งเครื่องเล่น อัพทั้งเครื่องเสียง อัพเกรดกันจนตายไปอีกสิบชาติน่ะแหละ



ถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจมัน ก็น่าจะพอนึกออกว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดมันก็มีอยู่นะ เช่น....
1. เครื่องเสียง(AVR) จริงๆจะใช้รุ่นไหนก็ได้ ขอแค่ให้รองรับ PCM แบบ Multichannel 5.1 หรือ 7.1 ได้ เท่านี้ก็พอ ไม่ต้องไปสนใจ logo มากมายก่ายกองบนเครื่อง
(รุ่นต่ำสุดๆๆๆๆ มันก็ทำได้หมดน่ะแหละ เพราะมันคือ มาตรฐานทั่วไปไง ไม่ต้องดูรุ่นแพงเลย)

2. เครื่องอ่านแผ่น /อ่านไฟล์ หาซื้อเครื่องที่มันสามารถถอดรหัส dts,dolby(ทั้งโครต) เป็น PCM ได้ในตัวมันเอง (ไม่ใช่แค่ stream นะ)
ส่วนใหญ่มันจะทำได้แค่ stream หรืออย่างดีก็ถอดได้ แต่ได้แค่ PCM 2ch. แบบนี้ไม่เอานะ
แนะนำเครื่อง(จีน)ที่อัพ firmware ลงโปรแกรมได้น่ะ น่าใช้ เพราะมันใช้ software ถอดรหัสทั้งนั้นแหละ ต้นทุนมันต่ำ

3. หรือไม่ก็ซื้อเป็นคอมพิวเตอร์ หรือ HTPC หรือ notebook ไปเลย
เอาที่มันมีการ์ดจอ + มีช่อง HDMI
(ไม่ต้องไปสนใจด้วยว่าจะสตรีม dts dolby ตัวไหนได้บ้าง เพราะเราจะสตรีม PCM กัน)
จากนั้น ก็ลง้โปรแกรมดูหนังที่ถอดรหัส (ซึ่งมีเยอะแยะมากมาย เช่น ffdshow , LAV decoder) ถอดรหัส dts,dolby(ทั้งโคตร) เป็น PCM
(อยาก แนะนำข้อนี้ มันคุ้มกว่าข้อ 2. เพราะเราอัพเกรดได้ เสียเงินแล้วคุ้ม และซอฟแวร์ก็ฟรีมากมาย ลูกเล่นมากมายก่ายกองกว่าเครื่องเล่นสำเร็จรูปราคาแพงๆเสียอีก เอามาทำงาน เล่นเวบ ก็ได้ด้วย)


Faq ยอดฮิต.?
========
Q. เค้าว่าการทำ Bitstream(dts,dd) เสียงดีกว่าแบบ PCM จิงป่ะ ?
A. มันก็เหมือนกันนะแหละ ที่ทำอยู่เนี่ย มันเป็นการส่งไฟล์ดิจิตอล ให้เครื่องเสียงมันอ่านเว้ย!
จะเลือกส่งแบบ dts , dolby , pcm มันก็ต้องส่งแบบ bitstream (คือ สตรีมข้อมูล data ทั้งนั้น)
เป็น 10011001100 = digital เหมือนกัน (ไม่ใช่ส่งเป็นเสียงอนาล๊อก)
มันจะต่างกันก็แค่ ใครจะคลายไฟล์ dts , dolby ระหว่าง...
- ให้เครื่องเสียงที่มันรองรับ dts dolby คลาย zip(ภาษาพ่อค้า = ถอดรหัส)....หรือ
- ให้โปรแกรมในคอมคลายไฟล์ แล้วส่งไฟล์เสียง pcm ไปให้เครื่องเสียงอ่าน (เครื่องเสียงไม่ต้องเหนื่อย)
* ซึ่งตอนช่วงที่คลายไฟล์ออก (ถอดรหัส=decode) มันก็ยังไม่ได้อ่านเป็นเสียงนะ มันแค่คลายไฟล์ที่บีบอัดไว้ออกมาเป็น ไฟล์ PCM ก่อน...แล้วจึงมาอ่าน pcm อีกขั้นตอนหนึ่ง

สุดท้ายตัวที่อ่านไฟล์ PCM =========> มันก็เครื่องเสียงอยู่ดี
แล้วคุณภาพเสียงมันจะต่างกันได้ไหมล่ะ
(ในทางทฤษฎี ที่จะต่างบ้าง คือ ความเร็วเสียง ใครจะทำได้ไวกว่ากัน อันนี้ต้อง sync ภาพ/เสียง เทียบดูเอง
แต่ที่ผมลองมา ยังไม่มีปัญหา ทั้ง cpu ในเครื่องเสียง หรือ cpu ในคอมพิวเตอร์ ยังเร็วเหลือเฟือ ไม่มีเสียง delay ให้เจอ)


*** เทียบง่ายๆ เอากระดาษเขียนคำว่า " สุดสวย " ส่งให้อ่าน // กับ เอากระดาษเขียนคำว่า " สุดสวย" แล้วพับเล็กๆแล้วส่งให้เปิดอ่าน.......

คนเปิดคลี่กระดาษคนละคน-แต่คนอ่านคนเดียวกัน คิดว่าคนอ่านมันจะอ่านเป็น สุดหล่อ ไหมวะครับ/***



อ้างอิง : google.com ค้นคำว่า "bitstream vs linear pcm"
อ่านแล้ววิเคราะห์กันดูว่า ที่ผมพูดมาน่ะจริงไหม


จบ.....นิยาย HI-DEF Audio
เขียนโดน NUTHPLAYER

ที่มา  
http://www.bloggang.com
http://en.wikipedia.org/wiki/Direct_Stream_Digital