วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

4K ???



สำหรับเทคโนโลยี 4K ทาง Consumer Electronics Association หรือ CEA ได้สรุปออกมาแล้วว่าให้ทุกค่ายทีวีใช้คำว่า Ultra High Definition (Ultra HD หรือ UHD) ในการเรียกความละเอียดแบบนี้ ซึ่งแบรนด์ทีวี, จอฉาย, หรือเครื่องเล่น จะต้องทำการเรียกและประชาสัมพันธ์สินค้าด้วยคำว่า Ultra High Definition แทนคำว่า 4K
4K หรือ Ultra High Definition คือมาตรฐานใหม่ของความละเอียดของ "จอภาพ" และ "คอนเทนต์" โดย K ย่อมาจาก Kilo ซึ่งเท่ากับ 1000 ดังนี้ 4K ก็หมายถึง 4000 นั่นเอง สำหรับความละเอียดหน้าจอสำหรับทีวี 4K แบบ Widescreen หมายถึงมีความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ผลรวมออกมาก็ได้ประมาณ 8.29 ล้านพิกเซล ทั้งนี้ความละเอียดในแนวนอนเท่ากับ 3840 เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกจึงมีการปัดเศษขึ้นให้เป็น 4000 จึงเป็นที่มาของคำว่า 4K นั่นเอง ! ในทางกลับกันทีวี Full HD ซึ่งเป็นมาตรฐานในตอนนี้มีความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งผลรวมออกมาได้ประมาณ 2.07 ล้านพิกเซล จะเห็นได้ว่าความละเอียดหน้าจอของทีวี 4K มากกว่าทีวีแบบ Full HD ถึง 4 เท่า โดยเจ้าความละเอียด 4K นั้นกำลังจะเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งการถ่ายทำด้วยกล้องความละเอียด 4K และจอฉายแบบ 4K และตลอดจนสินค้าทีวีและโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์
ตารางข้อมูล 4k จากวิกิพีเดีย
สำหรับมาตรฐาน 4k ที่นำมาใส่ในจอทีวีรุ่นใหม่ๆนั้น จะเป็นแบบ Quad Full High Definition ตัวย่อ QFHD ความละเอียดที่ 3840?2160 มีขนาดเป็น 4 เท่า ของไฟล์แบบ Full HD 1080p
ประโยชน์ของภาพ 4K ในเชิงคุณภาพของภาพ
ยิ่งเม็ดพิกเซลเยอะ ก็จะส่งผลให้ขนาดเม็ดพิกเซลมีความเล็กและเรียงตัวกันถี่มากยิ่งขึ้น "รอยหยักตามขอบภาพแบบขั้นบันได" (Jaggies) ก็จะน้อยลง รวมถึงพื้นที่ "รอยต่อระหว่างพิกเซล" (Screen Door Effect) ก็จะแคบลงทำให้ภาพแลดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
มาตรฐานวงการทีวีไฮเดฟฟินิทชั่นแบบไวด์สกรีน
HD = 1366 x 768
Full HD = 1920 x 1080
Ultra HD (4K) = 3840 x 2160
และในอนาคตอันใกล้ มาตรฐานความละเอียดของจอภาพและคอนเทนต์ก็จะสูงขึ้นอีก โดยคาดการณ์ว่าจะกลายเป็น 8K Ultra High Definition หรือ 7680 x 4320 ในที่สุด


ที่มา http://www.value.co.th/th/service/articles/4k.htm