วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นักบินอวกาศเขาทานอาหารกันอย่างไร


เคยสงสัยกันไหมค่ะว่านักบินอวกาศเขาทานอาหารกันอย่างไรในสภาพลอยเท้งเต้งไร้น้ำหนัก วันนี้เรามีคำตอบมาบอกกันค่ะ

การทานอาหารในอวกาศไม่ได้ดูง่ายอย่างที่คิดน่ะค่ะ และการลอยไปลอยมาในยานอวกาศไม่ได้ดูสนุกสนานอย่างที่เห็นด้วย นักบินอวกาศจำต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมากค่ะ และร่างกายยังต้องเผชิญกับความเครียดอีกด้วย

ดังนั้น นักบินอวกาศจึงต้องการสารอาหารที่แตกต่างจากเราๆที่อยู่บนพื้นโลกค่ะ ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาต้องการแคลเซียมมากขึ้นเพื่อทดแทนการเสื่อมสลายของกระดูก เนื่องจากกระดูกมีแนวโน้มว่าจะถูกเสริมสร้างขึ้นมาใหม่ในอัตราที่ช้าลงเมื่อ อยู่ในอวกาศค่ะ ซึ่งการเสื่อมของมวลกระดูกนี้เกิดขึ้นแทบจะทันทีที่ยานอวกาศพุ่งออกจากพื้น โลก ซึ่งการแก้ปัญหานี้ทางหนึ่งก็คือการทานอาหารที่มีโซเดียมหรือทานเกลือให้ น้อยลงค่ะ แต่ก็ดันมีปัญหาอีกตรงที่ในยานอวกาศดันไม่มีตู้เย็นซะนี้ และเกลือก็เป็นตัวช่วยในการถนอมอาหารที่สำคัญซะด้วย

ถ้าเป็นเมื่อก่อนตั้งแต่สมัยปฎิบัตการ Mercury และ Gemini นักบินอวกาศจะทานอาหารโดยการบีบออกมาจากหลอดค่ะ คล้ายการกินอาหารแหวะๆของเด็กทารกผ่านหลอกยาสีฟัน ซึ่งบุคคลแรกที่ได้กินอาหารในอวกาศเป็นครั้งแรกของโลกก็คือ John Glenn ค่ะในปี 1962 อาหารที่เขาทานก็คือแอปเปิ้ลซอส ซึ่งเขาได้รายงานกลับมาว่าย่อยได้ดี ไม่มีปัญหาค่ะ

แต่เนื่องจากการทานจากหลอดแบบนี้ดูเละๆแบะๆไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่นัก ทำนักบินอวกาศต่างน้ำหนักลดฮวบฮาบกันเป็นทิวแถวค่ะ ดังนั้นต่อมาพอถึงปฎิบัติการ Apollo นาซ่าก็ได้พัฒนาเมนูอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและมีให้เลือกหลายเมนูตั้งแต่ สลัดทูนาจนถึงซุปข้าวโพด แน่นอนว่าอาหารเหล่านี้จะต้องถูกทำให้แข็ง-แห้งและถูกขจัดน้ำออกไป หรือที่ศัพท์วิชาการเรียกว่า "thermo-stabilized" ( ให้ความร้อนเพื่อกำจัดแบคทีเรีย ) ค่ะ และแน่นอนว่ามีหน้าตาของอาหารเหล่านี้ต้องแตกต่างจากที่เห็นเมื่ออยู่บนพื้น โลกชัวร์

อาหารที่ผ่านกระบวนการ thermo-stabilized นี้จะมาในรูปของถุงเล็กๆค่ะ ซึ่งนักบินอวกาศสามารถใช้ช้อนทานได้ ตัวอย่างอาหารก็เช่น ลูกเรือของยาน Apollo 8 ได้ฉลองคริสต์มาสในปี 1968 โดยการกินไก่งวง น้ำเกรวี่และซอสแคนเบอรี่, Neil Armstrong และ Buzz Aldrin ก็คือมนุษย์สองคนแรกที่กินอาหารบนดวงจันทร์ ซึ่งอาหารที่ว่านั้นก็คือแซนวิชแฮมสลัดค่ะ หรืออย่างในภาพประกอบข้างบน เมนูในถุงนั้นก็คือเนื้อวัวกับผักค่ะ ซึ่งเป็นถุงอาหารจากปฎิบัติการยาน Apollo 11

ทุกวันนี้อาหารที่เสริฟในอวกาศมีความซับซ้อนขึ้นค่ะ โดยเฉพาะที่เสริฟบนสถานีอวกาศนานาชาติ ( International Space Station ; ISS ) ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ที่นี้นักบินอวกาศสามารถเพลิดเพลินกับอาหารตั้งแต่สเต็กจนถึงเค้กช็อคโกแล ตค่ะ พวกเขามีแม้กระทั้งเครื่องทำความเย็นเล็กๆซึ่งสามารถเสริฟเครื่องดื่มเย็นๆ ได้ ที่ห้องแล็ปอาหารของนาซ่ามีเมนูให้เลือกถึง 185 รายการ ในจำนวนนี้เป็นของรัสเซียประมาณ 100 รายการ และเมื่อญี่ปุ่นส่งลูกเรือขึ้นไปเป็นครั้งแรกที่ปี 2008 พวกเขาก็ได้พกอาหารไปด้วยประมาณ 30 รายการค่ะ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านสารอาหารและการเก็บรักษา นักบินอวกาศยังคงไม่สามารถกินทุกอย่างที่พวกเขาอยากจะกิน หรือกินเมื่อไรที่พวกเขาต้องการได้ สถานีอวกาศมีรอบระยะเวลาดำเนินการเรื่องอาหาร 16 วันต่อ 1 ครั้งค่ะ นักบินอวกาศแต่ละคนได้รับอาหารแห้งที่ไม่เน่าเปื่อยเพิ่มเติม 2 อย่าง ยกตัวอย่างเช่น พริงเกิลส์ ( Pringles ) หรือ เอ็มแอนด์เอ็ม ( M&Ms ) บางครั้งนาซ่ายังส่งโบนัสพิเศษอย่างเค้กวันเกิดขึ้นไปด้วย

ในปี 1965 ลูกเรือของยาน Gemini 3 ที่มีชื่อว่า John Young เซอร์ไพสเพื่อนๆโดยการดึง " แซนวิชเนื้อวัว " ที่ซื้อมาจากร้าน Florida deli ออกมา หรือแม้แต่ Pizza Hut ก็เคยส่ง " พิซ่า " ที่ถูกปิดผนึกแบบสูญญากาศไปที่สถานีอวกาศ Mir ( สถานีอวกาศของรัสเซีย ) มาแล้ว ในปี 2002 ลูกเรือ ISS ชื่อ Peggy Whitson ขอ " pecan pie " ( พายที่ทำมาจากถั่วพีแคน) ส่วน " Tortillas " ถูกนำขึ้นไปในปี 1985 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกันชื่อ Rodolfo Neri Vela และต่อมามันก็กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่นาซ่าจะแจกให้นักบินอวกาศทุกคน ซึ่ง Tortillas ที่แจกนี้ ผลิตมาจากบริษัทที่ผลิตสินค้าให้กับร้านอาหารเม็กซิกันฟาสฟูสอย่าง Taco Bell ค่ะ

ทั้งนี้ อาหารส่วนใหญ่ที่เคยถูกเสริฟในยาน Apollo ตอนนี้ได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นแล้วค่ะ บางอย่างได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นหรือไม่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นเมนูใหม่ไปเลย ยกตัวอย่างเช่นไอศกรีมที่ลูกเรือ Apollo 7 เคยเรียกร้องขอให้มี แต่ผลออกมาว่ารสชาติแย่จนนักบินอวกาศทนไม่ไหว ดังนั้นมันจึงไม่เคยถูกนำขึ้นมาเสริฟบนอวกาศอีกเลย หรืออย่างเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว นาซ่าพยายามที่จะแก้ปัญหาเกี่ยวกับคำบ่นเรื่องอาหารที่ทำจากปลาซึ่งมีกลิ่น คาวมากเกินไป โดยการทำเป็นปลาในซอสมะเขือเทศแทน แต่รสชาติก็แย่มากจนนักบินอวกาศปฏิเสธจะกินมันอีกค่ะ

ที่มา http://www.duocore.tv/out.php?id=25593