" มี ตากับหลานคู่หนึ่ง เดินจูงลา จะไปหมู่บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ เดินผ่านหมู่บ้่านแรก ชาวบ้านผู้หวังดี ก็พูดลอยๆขี้นมาว่า ตาหลานคู่นี้ โง่จัง มีลา ไม่ยอมขี่ เดินจูงให้เหนื่อยทำไม ตาหลาน ฟังแล้ว ก็เลยให้หลาน ขึ้นลา ตาเดินจูงลา
พอผ่านหมู่บ้านที่ สอง มีชาวบ้านผู้หวังดี พูดลอยๆว่า ไอ้หลานคนนี้ดูแข็งแรงแต่ขี่ลาสบาย เอาเปรียบตา ให้ตาแก่ๆเหนื่อยเดินจูงลาอยู่ได้ไง ตาหลานได้ฟัง ก็เลย ให้หลานเป็นคนจูงลา ตาขึ้นไปขี่ลาแทน
เดินผ่านมาถึงหมู่บ้านที่ สาม ชาวบ้านผู้หวังดี ก็พูดลอยๆอีกว่า แหม! ไอ้ตาแก่นี่ เอาเปรียบเด็ก ดูซิ เด็กเหนื่อยเลยตัวเองนั่งลาสบายๆ
ตาหลาน ได้ฟัง ก็เลย ให้หลาน ขึ้นมาขี่ลา พร้อมกับตาอีกหนึ่งคน
เดินมาถึงอีกหมู่บ้านหนึ่ง เจออีกแล้ว ชาวบ้านผู้หวังดี พูด อีกว่า แหม! ช่างไม่สงสารสัตว์ กันบ้างเลย หลังมันแอ่น แล้ว ขึ้นไปขี่ได้ยังไง
ทั้ง ตาหลาน ลามันจะไม่ไหว ทรมาน มัน ตาหลานได้ฟัง ก็ เลย เอาไม้ยาวๆ มาผูก ลา ที่ขาทั้งสี่ แล้วสอดที่ขา หามลาไป
ตาหลานหามลา เดินมาถึงหมู่บ้านต่อ มาก็จะมีผู้หวังดี พูดอีกว่า.................
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คำของคน จะพูดว่า ตามทัศนคติที่เขามี เสมอๆ เราฟังแล้วเต้นไปตามคำเขาโดยที่ไม่มีจุดยืนอะไรเลย ก็จะ ไม่สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ครับ คุณจะทำอะไรสิ่งที่เป็นสิ่งดี ทำเลย ครับ
วิตามินซีกับการป้องกันหวัด ???
9 ปีที่ผ่านมา