![]() | ![]() | ||||||||||||
เกริ่นเพียงเท่านี้ หลายๆ ท่านคงเริ่มสนใจ ETF ขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ ETF อย่างละเอียด
ETF ย่อมาจากคำว่า "Exchange Traded Fund" ซึ่งถ้าพิจารณาคำศัพท์ภาษาอังกฤษแต่ละคำที่ประกอบขึ้นมาเราลองมาดูกันก่อนดีกว่าว่า... จริงๆ แล้ว ETF คืออะไร? และมีลักษณะสำคัญอย่างไร? ผู้ลงทุนจะเข้าใจว่า ETF คืออะไรดียิ่งขึ้น โดย... |
Exchange | หมายความว่า มีการนำหน่วยลงทุน ETF ไปจดทะเบียนในตลาดรองหรือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ |
Traded | หมายความว่า สามารถทำการซื้อขาย ETF ผ่านบริษัทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ได้เสมือนกับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตัวหนึ่ง ดังนั้น สภาพคล่องของกองทุน ETF จึงไม่ต่างจากหลักทรัพย์จดทะเบียนทั่วๆ ไปที่สามารถซื้อขายกันได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถทราบราคาซื้อขายได้ในทันทีแบบ Real Time อีกด้วย |
Fund | หมายความว่า ETF เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง |
จึงพอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่า ETF คือ กองทุนเปิดที่จดทะเบียนและสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสมือนการซื้อขายหุ้นตัวหนึ่ง โดย ETF จะมีลักษณะคล้ายกับกองทุนรวมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น... การที่มีผู้บริหารกองทุน
มืออาชีพคอยดูแลบริหารกองทุนให้อย่างเป็นระบบ ใช้เงินลงทุนน้อย แต่สามารถกระจายความเสี่ยงได้มาก รวมถึงการมีกลไกในการปกป้องผู้ถือหน่วยลงทุน
มืออาชีพคอยดูแลบริหารกองทุนให้อย่างเป็นระบบ ใช้เงินลงทุนน้อย แต่สามารถกระจายความเสี่ยงได้มาก รวมถึงการมีกลไกในการปกป้องผู้ถือหน่วยลงทุน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง แต่ ETF กลับมีลักษณะสำคัญที่แตกต่างจากกองทุนรวมประเภทอื่นๆ กล่าวคือ...
![]() |
ซื้อขายราคา Real Time ไม่ต้องรอลุ้นราคากองทุนทุกสิ้นวัน จุดเด่นสำคัญของกองทุน ETF
ที่แตกต่างจากกองทุนเปิดทั่วไป คือ ETF เป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ลงทุนจึงสามารถซื้อขายหน่วยลงทุน ETF ผ่านโบรกเกอร์ได้ในราคาและเวลาที่ต้องการ (Real Time) โดยไม่จำเป็นต้องรอ NAV ต่อหน่วย ณ สิ้นวันเหมือนกับการซื้อขายกองทุนเปิดที่ไม่ใช่หลักทรัพย์ จดทะเบียน | ![]() | |||||||||||
![]() | ซื้อง่ายขายคล่อง บลจ. ผู้ออกกองทุน ETF จะมีการแต่งตั้งผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) เพื่อทำหน้าที่เสนอซื้อและเสนอขายหน่วยลงทุนของ ETF ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญ ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุน ETF ได้ตลอดเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ | ![]() | |||||||||||
![]() |
เป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยง ตามที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการลงทุนในกองทุน ETF นั้น มี นโยบาย
การลงทุนที่เลียนแบบหรือล้อกับดัชนีที่ถูกนำมาใช้ในการอ้างอิง โดยสามารถอ้างอิงกับดัชนีได้ หลากหลายประเภท เช่น ดัชนีราคาหุ้น ดัชนีราคาตราสารหนี้ ดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ จึงช่วย กระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะมีการกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มหลักทรัพย์หลายตัวหรือหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนของกองทุนรวมทั่วไป ที่เป็นการเลือกลงทุนใน หลักทรัพย์หรือสินทรัพย์รายตัวแต่ละประเภทตามที่นโยบายการลงทุนกำหนดไว้ | ![]() | |||||||||||
![]() | ได้ผลตอบแทนตามตลาด ค่าบริหารจัดการต่ำ กองทุน ETF ส่วนใหญ่มีนโยบายการบริหารจัดการ ลงทุนในเชิงรับ (Passive Management Strategy) ที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหรือราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิงมากที่สุด ไม่ได้เป็นการบริหารจัดการลงทุนในเชิงรุก (Active Management Strategy) เพื่อเอาชนะตลาดเหมือนกองทุนรวมส่วนใหญ่ จึงทำให้ ETF มีค่าใช้จ่ายตลอดจนค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการที่ต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป |
ตารางด้านล่างนี้ จะช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง... กองทุนรวมทั่วไป หุ้น และ ETF ชัดเจนยิ่งขึ้น

![]() |
เนื่องจากกองทุน ETF เป็นกองทุนที่มีลักษณะเลียนแบบดัชนีทางการเงิน กองทุน ETF จึงสามารถลงทุนใน
หลักทรัพย์ได้ทุกประเภท หากหลักทรัพย์ประเภทนั้นๆ มีดัชนีที่อ้างอิงได้ ตัวอย่างเช่น...
หลักทรัพย์ได้ทุกประเภท หากหลักทรัพย์ประเภทนั้นๆ มีดัชนีที่อ้างอิงได้ ตัวอย่างเช่น...
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น (Equity ETF) ได้แก่
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นโดยรวม เช่น SET50 Index, S&P500 Index, NASDAQ Composite
Index ฯลฯ
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น SET Energy & Utilities Sector Index ฯลฯ
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นโดยรวมของแต่ละประเทศ หรือดัชนีราคาหุ้นระหว่างประเทศ เช่น
MSCI World Index ฯลฯ
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้ (Bond ETF) ได้แก่
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาพันธบัตรรัฐบาล (Treasury Bond Index)
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีร าคาหุ้นกู้บริษัทเอกชน (Corporate Bond Index) ฯลฯ
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงหลักทรัพย์หรือดัชนีอื่นๆ ได้แก่
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity ETF)
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาทองคำ (Gold ETF) ฯลฯ
แม้ว่ากองทุน ETF จะมีหลากหลายตามประเภทของดัชนีหลักทรัพย์ที่ใช้อ้างอิง เช่น ดัชนีราคาหุ้น ดัชนีราคา
ตราสารหนี้ หรือดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ แต่กองทุน ETF ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ "กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น" (Equity ETF) เพราะว่าหุ้นเป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง และเป็นที่นิยมของผู้ลงทุนในทุกประเทศ รวมถึงดัชนีที่ใช้อ้างอิงก็มีความหลากหลาย สามารถคำนวณราคาได้ง่าย
![]() |
จากข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2554 ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกองทุน ETF จดทะเบียนรวม 8 กองทุน คือ...

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก 4 ใน 8 ของกองทุน ETF ที่ซื้อขายในประเทศไทยเป็นกองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น (Equity ETF) ดังนั้น เนื้อหาและตัวอย่างต่างๆ จึงขอเน้นไปที่ Equity ETF เป็นหลัก โดยเฉพาะ "กองทุนเปิด ThaiDEX SET50 ETF" หรือที่เรียกย่อๆ ว่า "TDEX" ซึ่งเป็น Equity ETF ที่มีขนาดกองทุนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของผู้ลงทุนมากที่สุดในบรรดา Equity ETF ทั้ง 4 กองทุน
ที่มา :