วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ประกันชีวิต vs ประกันสุขภาพ


มีคนจำนวนมากเข้าใจว่าถ้าทำประกันชีวิตแล้ว เมื่อเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุ จะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากบริษัทประกันชีวิตได้ ความจริงก็คือเบิกได้ ถ้ากรมธรรม์ประกันชีวิตที่บุคคลนั้นถือครองอยู่เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ มีการซื้อสัญญาเพิ่มเติมในส่วนของการประกันสุขภาพแนบอยู่ด้วย แต่ถ้ากรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับนั้นไม่ได้มีสัญญาเพิ่มเติมส่วนนี้ก็จะเบิก ไม่ได้ ดังนั้นในขณะที่จะซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต ท่านต้องแน่ใจว่าท่านต้องการความคุ้มครองในส่วนของการประกันประกันสุขภาพ หรือไม่ เพราะส่วนของการประกันสุขภาพสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตนั้นท่านต้องจ่าย เบี้ยประกันเพิ่มเติมจากกรมธรรม์หลัก และท่านสามารถเลือกวงเงินคุ้มครองในส่วนของการประกันสุขภาพได้ด้วยว่าท่าน ต้องการวงเงินคุ้มครองระดับใดโดยปกติจะแปรผันตามอัตราค่าห้องผู้ป่วยที่ท่าน เลือก กล่าวคือหากเลือกอัตราค่าห้องที่สูงกว่า ท่านก็จะได้รับวงเงินคุ้มครองในการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้มากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเลือกอัตราค่าห้องที่สูง เบี้ยประกันที่ท่านต้องจ่ายเพิ่มก็จะสูงตามไปด้วยและในส่วนของเบี้ยประกัน สุขภาพนี้มักจะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุของท่านที่เพิ่มขึ้น ปกติจะปรับเพิ่มขึ้นทุก ๆ 5 ปี แล้วแต่การแบ่งขอบเขตของช่วงอายุที่บริษัทนั้น ๆ กำหนดไว้ เช่น อายุ 30 – 35 ปี / อายุ 36 – 40 ปี / อายุ 41 – 45 ปี เป็นต้น

ส่วนของการประกันสุขภาพที่แนบอยู่กับกรมธรรม์ประกันชีวิตนั้น ถือเป็นกรมธรรม์ประเภทประกันวินาศภัยประเภทหนึ่งคล้ายกับการประกันรถยนต์ คือเป็นการรับประกันปีต่อปีและจ่ายค่าชดเชยเท่าความเสียหาย ( เจ็บป่วย ) ที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินวงเงินคุ้มครองที่ซื้อไว้และไม่ว่าจะมีการเจ็บ ป่วยเกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาหรือไม่ เมื่อครบช่วงเวลาที่บริษัทกำหนดไว้ว่าจะมีการปรับเพิ่มเบี้ยประกัน อัตราเบี้ยประกันสุขภาพในปีนั้นจะถูกปรับเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาผู้ถือกรมธรรม์จะไม่เคยเบิกค่ารักษาพยาบาลก็ตาม เหตุผลสำคัญที่ทำให้เบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นก็เพราะ อัตราความเสี่ยงในการเจ็บป่วยก็จะมากขึ้นนั่นเอง

ในส่วนของการประกันสุขภาพที่ท่านซื้อไว้แนบท้ายกรมธรรม์ประกันชีวิตของท่าน นั้น แม้ว่าท่านจะไม่ซื้อสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองอุบัติเหตุไว้ เมื่อท่านได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ท่านก็สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุได้ด้วยตามวงเงิน ที่ระบุไว้ในสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพที่ท่านซื้อไว้ ทั้งนี้มักจะรวมถึงการบาดเจ็บเล็กน้อยในลักษณะของการรักษาแบบผู้ป่วยนอกด้วย แต่ต้องเป็นการเข้ารักษาในโรงพยาบาลภายในเวลา 24 โมง นับจากเกิดอุบัติเหตุ คือรีบเข้ารักษาพยาบาลทันทีนั่นเองและต้องเป็นการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่รวมถึงการรักษาตามคลินิก จึงจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากการประกันสุขภาพที่แนบอยู่กับกรมธรรม์ ประกันชีวิตได้

ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สามารถเบิกได้นั้นปกติจะครอบคลุมถึงค่าใช้ จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริงตั้งแต่ค่าห้อง ค่าอาหารค่าบริการพยาบาล ค่ายา ค่าน้ำเกลือ และค่าใช้จ่ายอื่นๆในการรักษาพยาบาล ค่าศัลยกรรม ค่าห้องผ่าตัด ค่าวางยาสลบ ค่าตรวจในห้องแลบขณะเป็นผู้ป่วยนอก ค่าตรวจ เยี่ยมประจำวันของแพทย์ ทั้งนี้หากผู้ถือกรมธรรม์มีการประกันสุขภาพอยู่หลายฉบับสามารนำค่าใช้จ่ายครั้งนั้นเบิกได้จากทุกกรมธรรม์ตราบเท่าที่ ยังไม่เกินค่าใช้จริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประกันจากบริษัทเดียวกันหรือต่างบริษัทก็ตามและจะขอเบิก จากกรมธรรม์ใดก่อนก็ได้ ทั้งนี้รวมถึงข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่สามารถเบิกจากทางราชการได้อยู่แล้วหรือพนักงานของบริษัท ห้างร้านต่างๆที่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายจากกองทุนประกันสังคมก็ยังสามารถเลือก ได้ว่าจะเบิกจากประกันสังคมหรือจะเบิกจากกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ภายใต้หลักการเดียวกันคือเบิกได้ไม่เกินค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง และไม่เกินวงเงินคุ้มครอง และเมื่อเลือกเบิกจากทางใดทางหนึ่งแล้วหากได้รับการชดใช้จนครบถ้วนตามใบ เสร็จครั้งนั้นแล้วก็ไม่สามารถไปขอเบิกจากที่อื่นได้อีก

ที่มา http://www.moneyfor-life.com/PRAKAN/webpage/knowledge/about%20assure/life_health.htm