1. ถ้าคุณเป็นนักศึกษา หรือ ผู้ที่ชื่นชอบ technology
- อย่าลืมว่า php หรือ jsp เป็นเพียงส่วน ui ( user interface )และ presentation เท่านั้น ในการพัฒนา web application ยังต้องอาศัยส่วนอื่น อีกที่จะประกอบได้เป็น web application
ex.
ui <-> presenation <-> business logic <-> data system
ฉะนั้นถ้าคุณต้องการศึกษา และพัฒนา web application สิ่งที่ผมแนะนำคืออยากให้คุณทำความเข้าใจ รูปแบบของ web application ในภาพใหญ่ และหลักการพื้นฐานจะดีกว่า เพราะไม่งั้นต่อไปคุณก็มีคำถามอีกว่า " แล้ว .NET ล่ะ อย่างไหนดีกว่า "
และจากนั้นเมื่อคุณมีความพร้อมและ ต้องการพัฒนางานจริง ๆ คุณก็จะรู้สึกว่า คุณมีความพร้อมและความสามารถในการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ใช้งาน technology ที่คุณต้องการ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
เราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า "คน IT ควรจะเป็นคนที่สามารถปรับเปลี่ยน และเปิดกว้างสิ่งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เร็ว ถึงจะอยู่รอด " แต่การที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เร็วทันใช้นั้น ก็ต้องอาศัยความรู้พื้นฐานที่ดีพอ ไม่ใช่รู้เพียง กระแส technology หรือ products ที่ vendor พยายามนำเสนอให้คุณมา
อย่างที่เราเจอปัญหา ตอนที่พัฒนา web application ที่เราเลือก j2ee เป็นหลัก ปัญหาหลักที่เราเจอก็คือ programmer ยังมีความเข้าใจ http protocal และ Object Oriented technology ไม่ดีพอ ซึ่งเราก็ต้องทำการ training กันใหม่อีก
สังเกตุว่าสิ่งที่ขาดหายไปไม่ได้เกี่ยวกัน java เลย แต่กลับเป็นความรู้พื้นฐานในการพัฒนา application
2. คุณเป็นนักพัฒนา web สมัครเล่น
- คุณก็จะรู้สึกว่า การหา hosting ทีราคาไม่แพงนัก และอนุญาตให้คุณพัฒนา web application ได้นั้น ดูเหมือนว่า php และ mysql นั้นค่อนข้างจะหาได้ง่ายกว่า และราคาถูกกว่า อีกทั้งคุณยังมีโอกาสศึกษาตัวอย่าง program จาก open source project ที่พัฒนาบน PHP/MySql ได้อีกมากมาย
3. คุณเป็นนักพัฒนา มืออาชีพ
- องค์ประกอบอย่างอื่นที่สำคัญคือ ในองค์กรที่คุณทำงานอยู่ นั้น คุณเป็นคู้ค้ากับใคร และได้กำไรจาก technology ไหนมากกว่ากัน อย่างเช่นคุณเป็นคู่ค้ากับ oracle,sun หรือ ibm คุณก็รู้อยู่ว่า vendor กลุ่มนี้พยายามผลักดัน product ของตนให้ทำงานอยู่บนพื้นฐานของ java
ฉะนั้นถ้าคุณพัฒนา ด้วย jsp/servlet เรื่องการ training พนักงาน การทำตลาด การช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขี้นระหว่างการพัฒนา application ก็ทำรวดเร็วและดีกว่า ที่คุณจะพัฒนาด้วย technology อื่น
" technology ที่ดีที่สุดคือ technology ที่เราสามารถใช้มัน เพื่อสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจของเราได้นะครับ ไม่ใช่ technology ที่เราจับต้องไม่ได้ หรือยังเป็น technology ของโลกอนาคตอยู่ "
ที่มา http://www.narisa.com/forums/index.php?showtopic=41
วิตามินซีกับการป้องกันหวัด ???
9 ปีที่ผ่านมา