skip to main
|
skip to sidebar
วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553
รูรับแสง และ ความเร็วชัตเตอร์
รูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ถือเป็นหัวใจของการถ่ายภาพ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นักถ่ายภาพทุกคนไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมือ อาชีพต้องรู้ไว้ จึงจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานการถ่ายภาพที่ดีได้
รูรับแสง (Aperture)
บางทีก็เรียกกันว่า"หน้ากล้อง" การทำงานก็เหมือนกับชื่อ นั่นก็คือเป็นช่องที่ปล่อยให้แสงผ่านเข้าไป ซึ่งรูรับแสงจะไปสัมพันธ์กับความเร็วชัตเตอร์(ซึงคือเวลาที่ปล่อยให้แสงผ่าน เข้าไปผ่านรูนั้น) ทำให้เกิดความสว่างและรายละเอียดของภาพต่างๆกัน โดยขนาดของรูรับแสงจะวัดเป็น F number ซึ่ง F number นี้ยิ่งมีค่าน้อย รูรับแสงจะยิ่งกว้าง(อาจจะขัดกับความรู้สึกนิดๆ) และค่าของ F-number นั้นจะเพิ่มขึ้น(หรือลดลง)เป็น stop เช่น F2.0, 2.8 , 4.0 , 5.6 , 8 ,11,16 , 22 เป็นต้น โดยแต่ละ stop จะกว้างขึ้น(หรือแคบลง) 1 เท่า เช่น F2.8 จะกว้างกว่า F4 อยู่ 1 เท่า
จากภาพ
ยิ่ง F เลขมาก รูรับแสงยิ่งแคบลง
เนื่องจากรูรับแสงสัมพันธ์กับความเร็วชัตเตอร์ ซึ่งรูรับแสงที่กว้างจะช่วยให้ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆได้ ทำให้ถ่ายภาพในลักษณะที่มีการเคลื่อนไหว (เช่น ถ่ายภาพกีฬา) ได้ดีขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นรูรับแสงที่กว้างยังจะช่วยให้เกิดลักษณะภาพชัดตื้น(หน้าชัด หลังเบลอ)
ได้อีกด้
วย
จากภาพ -
การใช้รูรับแสงกว้างๆ (F เลขน้อยๆ) จะช่วยให้เกิดภาพที่มีลักษณะ"ชัดตื้น" ขึ้นได้
ภาพซ้าย
F2.8 ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที
ภาพขวา
F8 ความเร็วชัตเตอร์ 1/4 วินาที
ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed)
ความเร็ว ชัตเตอร์คือเวลาที่ปล่อยให้แสงผ่านเข้าไปยังฉากรับภาพ(ในกล้องดิจิตอลคือ CCD) โดยมีหน่วยเป็นวินาที เช่น 1/1000 วินาที 1/30 วินาที 1 วินาที 8 วินาที เป็นต้น ( 1/1000 วินาทีเร็วกว่า 1 วินาทีนะจ๊ะ ) โดยยิ่งความเร็วชัตเตอร์ยิ่งสูงยิ่งสามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาพไม่เบลอ แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ในเรื่องของรูรับแสงแล้วว่า ความเร็วชัตเตอร์ทำงานสัมพันธ์กับรูรับแสง หากความเร็วชัตเตอร์ยิ่งเร็ว ยิ่งทำให้ต้องมีรูรับแสงที่กว้าง จึงจะทำให้เกิดภาพที่ไม่มืด
จากภาพ
- ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ จะช่วยหยุดการเคลื่อนไหวได้ F2.8 ความเร็วชัตเตอร์ 1/500 วินาที
แต่ไม่ใช่ ว่าความเร็วชัตเตอร์ยิ่งเร็วถึงจะดี เพราะความเร็วชัตเตอร์ยังสัมพันธ์กับลักษณะของภาพที่ได้ด้วย เช่น เมื่อเราไปถ่ายน้ำตก ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็ว จะช่วยให้มองเห็นรายละเอียดของเม็ดน้ำ แต่ความเร็วชัตเตอร์ที่นานขึ้นจะช่วยให้เห็นน้ำเป็นสาย
ภาพซ้าย
- ความเร็วชัตเตอร์ชัตเตอร์สูงๆ (ค่าน้อยๆ) จะช่วยให้หยุดการเคลื่อนไหวของน้ำได้
ภาพขวา
- ความเร็วชัตเตอร์ที่นานขึ้น จะช่วยให้เห็นน้ำเป็นสาย
หรือการถ่ายภาพไฟในตอนกลางคืน หากเราตั้งความเร็วชัตเตอร์นานๆ(อย่าลืมใช้ขาตั้งกล้อง) ก็จะช่วยให้เห็นไฟเป็นสาย ให้ความสวยงามไปอีกแบบ
รูรับแสง (F) 22 ความเร็วชัตเตอร์ 10 วินาที สังเกตุไฟของรถยนต์ที่เป็นสาย
ความเร็วชัตเตอร์ช้าๆ ช่วยให้เก็บรายละเอียดของแสงไฟได้ดี รูรับแสง (F) 22 ความเร็วชัตเตอร์ 8 วินาที
ความสัมพันธ์ระหว่าง รูรับแสง กับ ความเร็วชัตเตอร์
เมื่อเรา รู้จักกับค่าทั้ง 2 ตัวแล้ว เราจะพบว่าทั้งรูรับแสงกับความเร็วชัตเตอร์ มีความสัมพันธ์กันในเรื่องของการเปิดรับแสง และความสว่าง/มืดของภาพ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากแต่อย่างใด สมมติว่าแสงมีค่าๆหนึ่งที่พอดี ไม่ทำให้ภาพมืดหรือสว่างจนเกินไป เมื่อรูรับแสงกว้าง(F ตัวเลขน้อยๆ)แสงก็จะเข้าได้มาก ชัตเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดรับแสงนาน จึงใช้ความเร็วสูงๆได้ แต่หากเปิดรูรับแสงแคบๆ(F ตัวเลขมากๆ)ก็จำเป็นต้องมีความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลง(เปิดนานขึ้น) เพื่อให้ได้แสงที่มีปริมาณพอเพียง
ถ้าหากว่า บางคนกำลังสงสัยอยู่ในใจว่า แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าแสงจะพอดี ไม่สว่างหรือมืดเกินไป หรือจะรู้ได้ยังไงว่าปรับรูรับแสงขนาดเท่านี้แล้วต้องปรับความเร็วชัตเตอร์ เท่าไหร่แล้วละก็ ไม่ต้องกังวลครับ หากอยู่ในหมวดกึ่งอัตโนมัติ เช่น P หรือหมวดปรับรูรับแสงหรือความเร็วชัตเตอร์เองแล้วละก็ กล้องจะทำการเลือกค่าที่เหลือที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ แต่หากว่าอยู่ในโหมด Manual กล้องก็จะมีมาตรวัดความสว่างให้ครับ ว่าค่าที่ตั้งทำให้รูปมืดหรือสว่างเกินไปหรือเปล่า
ที่มา
http://www.fujifilm.co.th/forum/showthread.php?t=7149
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
คลังบทความของบล็อก
►
2015
(3)
►
กรกฎาคม
(2)
►
มิถุนายน
(1)
►
2014
(17)
►
มิถุนายน
(3)
►
พฤษภาคม
(4)
►
เมษายน
(4)
►
มีนาคม
(2)
►
กุมภาพันธ์
(1)
►
มกราคม
(3)
►
2013
(49)
►
ธันวาคม
(1)
►
พฤศจิกายน
(4)
►
ตุลาคม
(1)
►
กันยายน
(1)
►
สิงหาคม
(7)
►
กรกฎาคม
(7)
►
มิถุนายน
(6)
►
พฤษภาคม
(2)
►
เมษายน
(5)
►
มีนาคม
(5)
►
กุมภาพันธ์
(5)
►
มกราคม
(5)
►
2012
(79)
►
ธันวาคม
(4)
►
พฤศจิกายน
(1)
►
ตุลาคม
(11)
►
กันยายน
(5)
►
สิงหาคม
(6)
►
กรกฎาคม
(4)
►
มิถุนายน
(9)
►
พฤษภาคม
(7)
►
เมษายน
(6)
►
มีนาคม
(3)
►
กุมภาพันธ์
(10)
►
มกราคม
(13)
►
2011
(123)
►
ธันวาคม
(6)
►
พฤศจิกายน
(7)
►
ตุลาคม
(21)
►
กันยายน
(15)
►
สิงหาคม
(18)
►
กรกฎาคม
(14)
►
มิถุนายน
(12)
►
พฤษภาคม
(8)
►
เมษายน
(2)
►
มีนาคม
(7)
►
กุมภาพันธ์
(5)
►
มกราคม
(8)
▼
2010
(109)
▼
ธันวาคม
(11)
วิธีแปลง UPS เป็น Inverter ใช้ในรถ
7 วิธีช่วยฝึกสมองให้ลูกความจำดี
รูรับแสง และ ความเร็วชัตเตอร์
CCD vs CMOS ใครคือผู้ชนะ
สุดยอด34โลโก้ค่ายภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
Plain Old CLR Object (POCO)
Programming Languge Index
เทคนิคการเลือกสีทาบ้าน
Push-Pull System
เล่นหุ้นแบบไหนดีที่สุด
วัสดุใหม่หาบาดแผลและซ่อมตัวเองได้
►
พฤศจิกายน
(3)
►
ตุลาคม
(9)
►
กันยายน
(15)
►
สิงหาคม
(14)
►
กรกฎาคม
(6)
►
มิถุนายน
(7)
►
พฤษภาคม
(17)
►
เมษายน
(11)
►
มีนาคม
(6)
►
กุมภาพันธ์
(4)
►
มกราคม
(6)
►
2009
(87)
►
ธันวาคม
(1)
►
พฤศจิกายน
(7)
►
ตุลาคม
(5)
►
กันยายน
(6)
►
สิงหาคม
(8)
►
กรกฎาคม
(10)
►
มิถุนายน
(8)
►
พฤษภาคม
(7)
►
เมษายน
(5)
►
มีนาคม
(26)
►
กุมภาพันธ์
(3)
►
มกราคม
(1)
►
2008
(8)
►
มิถุนายน
(8)