(ภาพจาก Guardian.co.uk)
สำหรับชื่อชายหนุ่มนาม “มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก” ในวันนี้
เชื่อเหลือเกินว่า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเขาผู้นี้
หรืออย่างน้อยก็คงต้องรู้จักกับผลงานเอกของเขา
สำหรับเครือข่ายสังคมออนไลน์หมายเลขหนึ่งของโลกที่ ณ
วันนี้มีการเก็บสถิติกันมาว่า มีจำนวนมหาศาล ว่ากันว่าถ้าตั้งเป็นประเทศ
“Facebook” ขึ้นมาแล้วล่ะก็
ประเทศนี้จะมีประชากรมากเป็นอันดับสามเลยทีเดียวนะครับ
นอกเรื่องกันมาเยอะ กลับมาที่พระเอกของเรากันหน่อย กับพ่อหนุ่มวัยย่าง
28 คนนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องแอบทึ่งและยกย่องในความสำเร็จของซักเคอร์เบิร์ก
ที่เป็นผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค
และยังเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งบนโลกออนไลน์
หลายคนมีซักเคอร์เบิร์กเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆ ด้าน
แต่กว่าจะมาเป็นซักเคอร์เบิร์กในวันนี้ได้นั้น มีปัจจัยที่เรียกได้ว่าเป็น
“ส่วนผสมสูตรสำเร็จ” ของเขาผู้นี้ ว่าแต่ปัจจัยเหล่านั้นคืออะไร
ไปติดตามดูกันครับ…
ปัจจัยที่สำคัญที่พามาร์ค ซักเคอร์เบิร์
กมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่แค่ความสามารถ หรือโชคเพียงเท่านั้น
แต่มันกลับถูกหล่อหลอมขึ้นมาด้วยหลายๆ สิ่ง
ที่หากใครคิดที่จะยึดถือซักเคอร์เบิร์กเป็นแบบอย่าง
จะลองทำให้ตัวคุณมีปัจจัยเหล่านี้เป็นองค์ประกอบในการดำเนินชีวิตก็ได้
ไม่หวงวิธีครับ…
ความทะเยอทะยาน และมีเป้าหมายที่ชัดเจน
คงจะพูดไม่ได้ว่าชายวัย 27 ย่าง 28 ปีผู้นี้ ไม่ทะเยอทะยาน
เพราะหากขาดสิ่งนี้
เขาคงไม่กล้าที่จะสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่างเฟซบุ๊คขึ้นมา
และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นนี้ เงินทอง การได้รับการยอมรับนับถือ
การถูกจดจำได้ เป็นสิ่งที่คนทุกคนล้วนอยากได้มา ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกนักที่
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เองก็ต้องการมันเช่นกัน
ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างฮาร์วาร์ด เขาได้เริ่มสร้างเฟซบุ๊คและเปิดใช้งาน แถมยังมีความสำเร็จอื่นๆ อีกมากมายตามมา
วิสัยทัศน์
การมองการณ์ไกล และวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของมาร์ค
เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญ
เพราะเขามองผลงานของเขาละเอียดไปตั้งแต่หน้าลงชื่อเข้าใช้
ที่ปรับจุดบกพร่องของคู่แข่งอย่าง My Space
และทำให้หน้าแรกของเฟซบุ๊คนั้นดูสะอาดตา น่าใช้งาน
เขามองระบบการค้นหาบุคคลให้เป็นมากกว่าการเป็นเหมือนกับ “Google”
ที่แม้จะละเอียดยิบกับการค้นหาข้อมูล
แต่ก็คงไม่สามารถที่จะหาเพื่อนของคุณได้จากการค้นหาแค่ครั้งเดียว
และนั่นเองคือจุดเด่นอีกจุดที่สำคัญของเฟซบุ๊ค (ว่ากันว่าเฟซบุ๊คทำให้เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปีได้พบกัน คุณเป็นกันไหมครับ?)
แม้ซักเคอร์เบิร์กจะไม่ใช่คนที่มีเสน่ห์
ที่จะโน้มน้าวให้คนเชื่อหรือซื้อในความคิดของเขาได้
แต่ผลงานของเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเติบโตแบบก้าวกระโดดของเฟซบุ๊ค
นั้นมาจากวิสัยทัศน์ของใคร
การบริหารงาน
หากมองย้อนกลับไปในฟังก์ชันการทำงานในอดีตของเฟซบุ๊ค
มันเป็นแค่ฟังก์ชันพื้นฐานง่ายๆ แต่เขาเลือกที่จะค่อยๆ เพิ่มฟังก์ชันต่างๆ
ลงไป เมื่อค่อยๆ มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อย อาจจะดูไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ด้วยการบริหารงานที่ดีเฟซบุ๊คจึงเป็นได้อย่างทุกวันนี้
ความมุ่งมั่น
หากย้อนกลับไปในปี 1995 สตีฟ จ็อบส์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า เขามั่นใจว่า
ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่จะแยกผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
จากกลุ่มที่ไม่ประสบความสำเร็จคือ “ความมุ่งมั่นที่แรงกล้า”
ความมุ่งมั่นของมาร์คในการผลักดันให้เฟซบุ๊คเกิดขึ้นมา คือตัวแปรที่
สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของความสำเร็จของเขา
ซึ่งเขาเร่งมือทุ่มเทเขียนโปรแกรมเพื่อให้เฟซบุ๊คสามารถเปิดใช้งานได้ทัน
การจัดการเอาสองพี่น้อง Winklevoss ออกไปจากบริษัท
การสรรหาทีมงานด้วยตัวเอง การแข่งขันอย่างรุนแรงกับ My Space
แถมยังต้องมาเจอคดีฟ้องร้องจากพี่น้องฝาแฝดตัวแสบที่ฟ้องร้องกันขึ้นโรง
ขึ้นศาล นับได้ว่ามาร์คเป็นคนที่มุ่งมันกับการทำงานมากๆ
โชค
เป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลย สำหรับคนที่จะประสบความสำเร็จ
มักจะต้องพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่า “โชค” อยู่ไม่น้อย
สำหรับมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เขาโชคดีที่ได้มาทำงานร่วมกับ Seam Parker
ซึ่งได้แนะนำเขาให้ได้มีโอกาสรู้จักกับ Peter Thiel
ซึ่งหากเขาไม่ได้รู้จักกับพันธมิตรที่แสนดีคนนี้
ที่เป็นทั้งเพื่อนที่ดีและนายทุนคนแรกให้กับเขา
วันนี้เราอาจจะไม่ได้มานั่งเล่นเฟซบุ๊คกันอยู่ก็เป็นได้นะครับ
ช่วงจังหวะที่เหมาะสม
สำหรับ Google เสิร์ชเอนจิ้นเบอร์หนึ่งของโลกวันนี้
หลายคนคงลืมไปแล้วว่า พวกเขาไม่ได้เป็นเจ้าแรกสำหรับบริการค้นหาแบบนี้
หรือแม้แต่ YouTube
ก็ไม่ได้เริ่มให้บริการดูวิดีโอแบบออนไลน์เป็นรายแรกของโลกเช่นกัน
หากแต่การที่พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นเพราะว่า
พวกเขามาได้ถูกทีถูกเวลาเท่านั้น
เฟซบุ๊คเองก็เช่นกัน พวกเขาเกิดมาหลังสังคมออนไลน์อื่นๆ อย่าง
Geocities, Tripod, Friendster, Tribe Networks หรือ MySpace
ที่ดังมาก่อนด้วยซ้ำไป การมาดังเป็นพลุแตกของเฟซบุ๊คนั้น นอกจากโชคแล้ว
ช่วงเวลาที่เฟซบุ๊คแจ้งเกิดต้องเรียกว่าเหมาะสมมากๆ เลยทีเดียว
บรรดา Zynga, Groupon, LinkedIn, Demand Media และ Pandora
มาได้ถูกจังหวะที่ความต้องการของผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้น
การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
อุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่เป็นช่วงพีคสุดช่วงหนึ่ง
เหล่านี้ก็ล้วนเป็นสิ่งที่บอกได้ถึงการมาของเฟซบุ๊คที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า
พวกเขามาได้ถูกเวลาจริงๆ
เมื่อรวมเอาปัจจัยทั้ง 6 มาวิเคราะห์แล้ว
ก็กลายเป็นความสำเร็จที่ทำให้มี CEO ของเฟซบุ๊คนาม “มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก”
ให้เราได้รู้จักกันในทุกวันนี้ล่ะครับ
แม้จะไม่ใช่เรื่องที่จะทำหรือเลียนแบบกันได้ง่ายๆ แต่หากมีความมุ่งมั่น
มีความรักในสิ่งที่จะทำ มีเป้าหมายที่ชัดเจน
และเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง
คุณเองก็อาจจะเป็นอีกคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกันครับ…
เราเรียนรู้อะไรจากบทความนี้: สำหรับมาร์ค
ซักเคอร์เบิร์ก ชายที่มีความสำเร็จอย่างท้วมท้น เขาอาจจะฉลาด ทะเยอทะยาน
วางแผนได้อย่างรอบคอบ หรือมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
แต่คุณจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากขาดซึ่งความช่วยเหลือจากผู้อื่น
มาร์ค โชคดีที่มีเพื่อนและนายทุนที่ดี หากวันนี้คุณมีแผนที่จะทำอะไรก็ตาม
ลองมองหาคนที่จะช่วยเหลือให้งานหรือสิ่งที่คุณกำลังจะทำ
เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นดูสิครับ
เชื่อว่าจะทำให้งานของคุณเดินหน้าหรือมีภาพที่ชัดเจนขึ้นอย่างแน่นอนครับ…
ที่มา: