วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตามไปรู้จัก 10 พืชผักบำรุงนํ้านมแม่

โดย ทั่วไปแล้ว ทารกแรกเกิดจะหิวนมทุก 3-4 ชั่วโมง ขณะที่คุณแม่ที่เพิ่งฟื้นตัวจากการคลอดก็แทบจะไม่ได้หลับนอน เพราะต้องให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ นํ้านมจะน้อย ซึ่งพอลูกหิวแล้วดูดนมไม่พอ และไม่อิ่ม ก็หลับหูหลับตาร้องจ้าจนคุณแม่หลาย ๆ คนถึงกับยกธงยอมแพ้ให้กับนมขวดไปเลย

วันนี้ ทีมงาน Life & Family มี เมนูพืชผักสมุนไพรไทยหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มการผลิตนํ้านมแม่จากโรงพยาบาล สมิติเวชมาฝากกัน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปรู้จักพร้อม ๆ กันเลยครับ

- หัวปลี มีแคลเซียมสูง โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินอี เบตาแคโรทีน แก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ บำรุงเลือด และช่วยกระตุ้นการสร้างนํ้านม สามารถนำไปทำอาหารอย่าง แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี ลวกจิ้มนํ้าพริก ทอดมันหัวปลี หรือหัวปลีชุบแป้งทอดก็ดูเข้าท่า

- ขิง มีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ บี 1 บี 2 คาร์โบไฮเดรต ช่วยขับลม แก้คลื่นไส้ ย่อยไขมันได้ดี ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ขับเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และทำให้นํ้านมไหลได้ดีอีกด้วย สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น โจ๊กไก่ใส่ขิง หมูสับผัดขิง มันหรือถั่วเขียวหรือบัวลอยต้มนํ้าขิง หรือนํ้าขิงชงดื่มร้อน ๆ ก็ได้

- มะละกอ มีธาตุเหล็ก และแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี ซี และเส้นใยอาหารสูง ช่วยขับนํ้านม บำรุงเลือด กระดูก สายตา ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด สามารถรับประทานแบบสุกแทนเป็นของหวาน หรือนำแบบดิบไปใส่แกงส้มก็ย่อมได้

- ฟักทอง มี วิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส เบตาแคโรทีน ช่วยขับนํ้านม และช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น เมนูฟักทองผัดไข่ แกงเลียง แกงบวดฟักทอง ซุปฟักทองหรือนำไปนึ่งทานเปล่า ๆ จิ้มนํ้าพริกหรือใส่ในสลัดก็ดูเข้าท่าไม่น้อย

- กุยช่าย ให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กคาร์โบไฮเดรต เบตาแคโรทีน วิตามินซี ช่วยขับนํ้านม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม นำไปใส่ในอาหารจำพวก ผัดไทยใส่ใบกุยช่าย หรือนำใบสดกินแกล้มกับอาหารอื่นๆ ได้

- ตำลึง มีโปรตีน มีวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก เส้นใยอาหารในปริมาณมาก ช่วยบำรุงนํ้านม เลือด กระดูก สายตา ผม และประสาท สามารถนำไปทำเมนูง่าย ๆ อย่างเช่น ต้มจืดตำลึง แกงเลียงตำลึง ตำลึงผัดนํ้ามันหอย เป็นต้น

- ใบกะเพรา มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใยอาหารสูง ความร้อนจากใบกะเพราช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้มีนํ้านมมากขึ้น แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน สามารถนำไปอาหารประเภทแกง และผัด เช่น แกงเลียงใส่ใบกะเพรา ผัดกะเพรา แกงป่าหรือผัดเผ็ดต่าง ๆ โดยใช้พริกไทยอ่อนแทนพริกขี้หนูเพื่อเลี่ยงรสเผ็ด

- ใบแมงลัก มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบีและซีสูง มีรสหอมร้อน ทำให้นํ้านมไหลได้ดี ช่วยขับลม ขับเหงื่อ สามารถนำไปใส่ในแกงเลียง ขนมจีนนํ้ายาหรือใส่ในแกงป่าต่าง ๆ

- พริกไทย มีนํ้ามันหอมระเหย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต มีรสร้อน ทำให้นํ้านมไหลได้ดี ช่วยขับลม ขับเหงื่อ นำไปใส่ในแกงเลียง แกงจืด หรือผัดต่างๆ ก็จะทำให้รสชาติเผ็ดร้อนขึ้นมาได้

- มะรุม มีวิตามินซีสูง แคลเซียมสูง วิตามินเอสูง โพแทสเซียมสูง โปรตีนสูง โดยแคลเซียมเข้าไปเสริมกระดูกของแม่ ใบและดอกช่วยในการขับนํ้านม หรือนำไปใช้ประกอบอาหาร เช่น แกงส้มดอกมะรุม

ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่ผลิตน้ำนมอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ เริ่มจาก

- พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นพร้อมลูก นอนพร้อมลูก งานบ้านควรปล่อยให้ผู้ช่วยทำ

- ผ่อนคลายเวลาให้นมลูก อย่าเร่งรีบให้เสร็จ ๆ ไป เพราะนํ้านมจะหดหาย

- ดื่มนํ้ามาก ๆ ดื่มนํ้าอุ่นบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงต้นของการให้นม หรือช่วงที่ปั๊มนม เพราะช่วยเพิ่มนํ้านม

- ใช้กระเป๋านํ้าร้อนประคบรอบเต้านมก่อนให้นมลูก เพื่อกระตุ้นให้นํ้านมออกมา

- ควรให้ลูกดูดนมจากอกแม่อย่างสมํ่าเสมอและเพียงพอให้ลูกอิ่ม เพื่อกระตุ้นให้นํ้านมมาเป็นเวลา ปริมาณคงที่

- สำคัญที่สุด คงเป็นเรื่องการบำรุง ซึ่งต้องระวังเรื่องอาหาร ไม่ควรตามใจปาก เพราะจะทำให้อ้วนได้

รู้แบบนี้แล้ว คุณแม่ลูกอ่อนทั้งหลายลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ

ที่มา http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097753