แผนที่
โลกฉบับอินเทอร์แอ็คทีฟ (Interactive)
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกเฉลี่ย 4
องศา ที่ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พัฒนาขึ้นโดยทีมงานนักวิทยาศาสตร์ขององค์กรอุตุนิยมวิทยาแห่งอังกฤษ หรือ
MetOffice ผู้นำการวิจัยทางอุตุนิยมวิทยา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์อากาศ
การสร้างความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปงลอุณหภูมิโลก
รวมถึงการให้ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจและการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้อง
กับอุตุนิยมวิทยา และการพยากรณ์อากาศ
MetOffice ตั้งใจสร้างแผนที่โลกฉบับนี้ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ฝ่ายการเมืองของอังกฤษตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อ วันที่อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 4 องศา ทั้งนี้เพื่อมองหาแนวทางการรับมือ รวมถึงการนำเสนอข้อมูลเพื่อการสร้างความเข้าใจอย่างง่ายๆ แก่ประชาชนทั่วๆ ไป
ภายในแผนที่ฉบับนี้จะแสดงถึงผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ โลก 4 องศา โดยเป็นการคาดการณ์ระหว่างปี 2060-2100 เพื่อแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคใดของโลกที่จะได้รับผลกระทบซึ่งคาดการณ์จากการ คำนวณและพยากรณ์จากข้อมูลของสหประช่าชาติในปี 2007 ผ่านการนำเสนอแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ ที่เข้าใจง่าย เพียงแค่คลิกประเด็นที่ต้องการทราบ ไม่ว่าจะเป็น ไฟป่า สถานการณ์พื้นที่เพาะปลูกและพืชผลทางการเกษตรถูกทำลาย ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคลดลงอย่างรุนแรง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ความแห้งแล้ง พายุหมุน หรือปัญหาสุขภาพอนามัย จากนั้นระบบจะทำเครื่องหมาย (Mark) พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบนั้นๆ
หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 องศา ตัวอย่างปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญ
1. ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ตอนล่างที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง มีพื้นที่ซึ่งเคยเป็นพื้นที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่เพาะปลูกจะหายไปเพราะน้ำท่วม ซึ่งบริเวณเหล่านี้มักจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร เป็นแหล่งเพาะปลูกผลิตอาหาร และมีความหลากหลายทางชีวภาพ
สำหรับ เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกซึ่งประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณตอนล่างของ ปากแม่น้ำ แต่หากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น หมู่เกาะเล็กๆ จะถูกน้ำจมหายไป เกิดพายุหมุนรุนแรง นำไปสู่การอพยพย้านถิ่นฐานในที่สุด
2. อุณหภูมิโลกสูงขึ้น อากาศที่ร้อนมากขึ้นมีผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคลดลงอย่างรุนแรง ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ปัญหาไฟป่า หรือแม้แต่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ตัวอย่าง ชาวยุโรป 35,000 คน ที่ต้องตายเพราะอากาศที่ร้อนจัดเมื่อปี 2003
3. ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิมอยู่ที่ 40-50%
4. พื้นที่เพาะปลูก ผลผลิตทางการเกษตรถูกทำลายเสียหาย เริ่มจากพื้นที่เพาะปลูกลดลง ทำให้ปริมาณผลผลิตที่ได้ต่อไร่ลดลง เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร ผู้คนทั่วโลกต้องหิวโหยเพิ่มขึ้น 10-20% โดยเฉพาะแอฟริกา เอเชียใต้บางส่วน และอเมริกากลาง
5. พื้นที่ป่าอเมซอนลดลงเพราะถูกไฟป่าเผาไหม้อย่างหนัก เหตุจากความแห้งแล้ง และปริมาณฝนที่ลดลง
เร็วๆ นี้ เราคงจะได้รับทราบข่าวเพื่อนบ้านประเทศต่างๆ ที่เผชิญกับภัยพิบัตทางธรรมชาติ เช่น
วันที่ 7 ก.พ. 2010 กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ที่ถูกพายุหิมะถล่มอย่างหนัก
เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในฟิลิปปินส์ ที่สร้างความเสียหายต่อผู้คนกว่า 12 ล้านคน ซึ่งรวมพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน
มี ข้อมูลว่าแบบจำลองเอ็มไอที-คาลเทคชี้อนาคต พายุฝนพัดกระหน่ำรุนแรงขึ้นเพราะโลกร้อน ระบุทุกๆ 1 องศาเซลเซียส ที่เพิ่มขึ้น ฝนจะตกรุนแรงขึ้น 6% เพราะเมื่อความร้อนเพิ่มขึ้นทำให้ไอน้ำในชั้นบรรยากาศก็สูงขึ้น
หรือนี้จะเป็นสัญญาณเตือนที่ธรรมชาติต้องการบอกเราสำหรับอนาคตที่ต้องเผชิญ
สนใจลองคลิกดูพื้นที่ต่างๆ ที่คาดจะได้รับผลกระทบหากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 องศา... คลิกที่นี่
MetOffice ตั้งใจสร้างแผนที่โลกฉบับนี้ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ฝ่ายการเมืองของอังกฤษตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อ วันที่อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 4 องศา ทั้งนี้เพื่อมองหาแนวทางการรับมือ รวมถึงการนำเสนอข้อมูลเพื่อการสร้างความเข้าใจอย่างง่ายๆ แก่ประชาชนทั่วๆ ไป
ภายในแผนที่ฉบับนี้จะแสดงถึงผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ โลก 4 องศา โดยเป็นการคาดการณ์ระหว่างปี 2060-2100 เพื่อแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคใดของโลกที่จะได้รับผลกระทบซึ่งคาดการณ์จากการ คำนวณและพยากรณ์จากข้อมูลของสหประช่าชาติในปี 2007 ผ่านการนำเสนอแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ ที่เข้าใจง่าย เพียงแค่คลิกประเด็นที่ต้องการทราบ ไม่ว่าจะเป็น ไฟป่า สถานการณ์พื้นที่เพาะปลูกและพืชผลทางการเกษตรถูกทำลาย ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคลดลงอย่างรุนแรง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ความแห้งแล้ง พายุหมุน หรือปัญหาสุขภาพอนามัย จากนั้นระบบจะทำเครื่องหมาย (Mark) พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบนั้นๆ
หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 องศา ตัวอย่างปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญ
1. ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ตอนล่างที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง มีพื้นที่ซึ่งเคยเป็นพื้นที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่เพาะปลูกจะหายไปเพราะน้ำท่วม ซึ่งบริเวณเหล่านี้มักจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร เป็นแหล่งเพาะปลูกผลิตอาหาร และมีความหลากหลายทางชีวภาพ
สำหรับ เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกซึ่งประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณตอนล่างของ ปากแม่น้ำ แต่หากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น หมู่เกาะเล็กๆ จะถูกน้ำจมหายไป เกิดพายุหมุนรุนแรง นำไปสู่การอพยพย้านถิ่นฐานในที่สุด
2. อุณหภูมิโลกสูงขึ้น อากาศที่ร้อนมากขึ้นมีผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคลดลงอย่างรุนแรง ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ปัญหาไฟป่า หรือแม้แต่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ตัวอย่าง ชาวยุโรป 35,000 คน ที่ต้องตายเพราะอากาศที่ร้อนจัดเมื่อปี 2003
3. ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิมอยู่ที่ 40-50%
4. พื้นที่เพาะปลูก ผลผลิตทางการเกษตรถูกทำลายเสียหาย เริ่มจากพื้นที่เพาะปลูกลดลง ทำให้ปริมาณผลผลิตที่ได้ต่อไร่ลดลง เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร ผู้คนทั่วโลกต้องหิวโหยเพิ่มขึ้น 10-20% โดยเฉพาะแอฟริกา เอเชียใต้บางส่วน และอเมริกากลาง
5. พื้นที่ป่าอเมซอนลดลงเพราะถูกไฟป่าเผาไหม้อย่างหนัก เหตุจากความแห้งแล้ง และปริมาณฝนที่ลดลง
เร็วๆ นี้ เราคงจะได้รับทราบข่าวเพื่อนบ้านประเทศต่างๆ ที่เผชิญกับภัยพิบัตทางธรรมชาติ เช่น
วันที่ 7 ก.พ. 2010 กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ที่ถูกพายุหิมะถล่มอย่างหนัก
เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในฟิลิปปินส์ ที่สร้างความเสียหายต่อผู้คนกว่า 12 ล้านคน ซึ่งรวมพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน
มี ข้อมูลว่าแบบจำลองเอ็มไอที-คาลเทคชี้อนาคต พายุฝนพัดกระหน่ำรุนแรงขึ้นเพราะโลกร้อน ระบุทุกๆ 1 องศาเซลเซียส ที่เพิ่มขึ้น ฝนจะตกรุนแรงขึ้น 6% เพราะเมื่อความร้อนเพิ่มขึ้นทำให้ไอน้ำในชั้นบรรยากาศก็สูงขึ้น
หรือนี้จะเป็นสัญญาณเตือนที่ธรรมชาติต้องการบอกเราสำหรับอนาคตที่ต้องเผชิญ
สนใจลองคลิกดูพื้นที่ต่างๆ ที่คาดจะได้รับผลกระทบหากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 องศา... คลิกที่นี่