หิ่งห้อย เป็นแมลงชนิดหนึ่งที่สามารถผลิตแสงได้ด้วยตนเอง
พบเห็นได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย มีขนาดตั้งแต่ 2 มิลลิเมตร ไปจนถึง 10
เซนติเมตร สีของแสงหิ่งห้อยที่พบในไทยจะเป็นสีเหลืองและน้ำตาล
มันมีอายุขัยประมาณ 1 เดือน แสงที่หิ่งห้อยเปล่งออกมาเป็นพลังงานแสงร้อยละ
90 อีกร้อยละ 10 เป็นพลังงานความร้อน
การที่หิ่งห้อยเรืองแสงได้ เพราะเซลส์จากอวัยวะการสร้างแสงของหิ่งห้อยจะผลิตสารสีขาวที่ชื่อว่า ลูซิเฟอริน (Luciferin)
จากนั้นหิ่งห้อยจะควบคุมการเปล่งแสง
โดยบังคับอากาศที่ได้จากการหายใจเข้าไป
เมื่ออ๊อกซิเจนในอากาศสัมผัสกับสารลูซิเฟอริน และทำปฏิกิริยากับเอมไซม์ชื่อ
Luciferase หิ่งห้อยก็จะปล่อยพลังงานออกมาเป็นแสงได้ ฉะนั้นแสงจะสว่างหรือดับจึงขึ้นอยู่กับการหายใจของหิ่งห้อยนั่นเอง
หิ่งห้อยไม่ได้เปล่งแสงเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่เป็นการส่งสัญญาณเพื่อการหาคู่
ซึ่งหิ่งห้อยแต่ละชนิดจะมีจังหวะการกระพริบแสงที่แตกต่างกัน
ฉะนั้นหิ่งห้อยแต่ละชนิดจึงจดจำการกระพริบแสงของพวกเดียวกันได้
จึงทำให้เกิดการผสมพันธุ์ที่ถูกกับชนิดของหิ่งห้อยนั้น ๆ
"หิ่งห้อย" เป็น
แมลงปีกแข็งขนาดเล็กอาศัยอยู่ตามใบไม้
เมื่อผสมพันธ์แล้วจะวางไข่ฟองเดี่ยวตามดิน หรือที่ชื้นแฉะ
ไข่ฟักเป็นตัวหนอนมี 4-5 วัน เข้าดักแด้ และเป็นตัวเต็มวัย
หิ่งห้อยมีชีวิตอยู่ 3-12 เดือน แล้วแต่ละชนิด
หิ่งห้อยก็จะกะพริบแสงเพื่อสื่อหาคู่ของมันมาผสมพันธ์
แสงของหิ่งห้อยเกิดจากกระบวนการทางเคมี
ซึ่งมีสารลูวิเฟอรินทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เช่น ปฏิกิริยาลูซิเฟอเรส
และได้รับพลังงาน เอทีพี เป็นโปรตีนที่ให้พลังงานในเซลล์
หิ่งห้อยชอบอกหากินในเวลากลางคืน โดยบริเวณที่มีน้ำที่สะอาด
และบริเวณป่าโกงกางป่าชายฝั่งทะเล และต้นลำพู
ตัวหนอนของหิ่งห้อยอาศัยอยู่ในน้ำที่สะอาด
หิ่งห้อยนี้ยังสามารถบอกความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศได้ด้วย
หิ่งห้อยเรืองแสงได้ทั้งตัวผู้และตัวเมีย หิ่งห้อยกินสัตว์เล็กๆ เป็นอาหาร
แสงของหิ่งห้อยมีสีเขียวเหลือง
หิ่งห้อยที่บินว่อนตามพุ่มไม้เป็นหิ่งห้อยตัวผู้
ตัวเมียชอบเกาะนิ่งตามกิ่งไม้ใบไม้ ในยามกลางวันมันจะไม่กะพริบแสงเลย
แต่เมื่อถึงเวลาโพล้เพล้มันก็จะเริ่มโชว์ตัว
และมันจะกระทำกิจกรรมกะพริบแสงทุก 24 ชั่วโมง เสมือนมันมีนาฬิกาใจในตัว
เพราะเวลาเรานำหิ่งห้อยมาขังในห้องมืดที่แสงสว่างไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้
เลย เราก็จะเห็นว่าในทุก 24 ชั่วโมง มันจะกะพริบแสงทั้งๆ
ที่มันไม่รู้เลยว่า ขณะนั้นเป็นเวลาอะไร
เราจะเห็นได้ว่าเวลาที่หิ่งห้อยกะพริบแสงนั้น จะกะพริบพร้อมๆ
กันแต่ถ้าเราแยกหิ่งห้อยออกจากกลุ่ม
จะสังเกตเห็นการกะพริบแสงของหิ่งห้อยแตกต่างกันไป
เพราะถ้าหิ่งห้อยอยู่ในฝูงของมันหิ่งห้อยจะมีการปรับตัวเอง
โดยการกะพริบแสงที่เหมือนกัน แล้วหิ่งห้อยยังสามารถบอกถึงฤดูกาลได้อีกด้วย
ยามหิ่งห้อยออกหากินคือยามโพล้เพล้แล้วพระอาทิตย์ตกดินเล็กน้อย
หรือในคืนข้างแรม เราจะพบว่ามันกะพริบแสงเหมือนไฟต้นคริสต์มาส
มนุษย์รู้จักหิ่งห้อยมา 2000 ปี มาแล้ว
คนจีนโบราณและชาวบราซิลในอดีตจะจับหิ่งห้อยใส่ขวดแก้ว เพื่อนใช้แทนตะเกียง
ต้องใช้หิ่งห้อยโตเต็มที่เพียง 6 ตัว
ให้แสงสว่างก็เพียงพอสำหรับอ่านหนังสือในเวลากลางคืนได้
คนญี่ปุ่นก็นิยมใช้ตะเกียงหิ่งห้อยเช่นกัน
ทุกวันเราจะพบหิ่งห้อยที่เอเชียตอนใต้ เช่น ไทย พม่า มาเลเชีย ยุโรป
อเมริกาเหนือ และใต้ ในโลกเรามีหิ่งห้อยราว 2000 ชนิด ลำตัวหิ่งห้อย ยาว
2-25 มิลลิเมตร
แหล่งที่อยู่อาศัย เนื่องจากหิ่งห้อย
มักจะออกหากินในเวลากลางคืน และหลบซ่อนตัวในเวลากลางวัน
ส่วนใหญ่หิ่งห้อยอาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ หรือตามพื้นที่ชุ่มชื้นใกล้หนองน้ำ
หรือลำธารที่มีน้ำใสสะอาด และที่สำคัญตรงนั้นต้องเป็นน้ำนิ่ง
ตลอดจนบริเวณป่าโกงกาง ชายฝั่งทะเล
ในระยะตัวเต็มวัยหิ่งห้อยมักเกาะอยู่ตามต้นลำพู และต้นลำแพนโพทะเล ต้นฝาก
ต้นแสม ต้นสาคู และต้นเหงือกปลาหมอ โดยเฉพะป่าชายเลน
ที่มีแหล่งอาหารสมบูรณ์ ชาวบ้ายมักจะเรียกต้นไม้ที่มีหิ่งห้อยเกาะว่า
"โกงกางหิ่งห้อย ''
หิ่งห้อยที่เราเห็นบินวอนตามพุ่มไม้ส่วนใหญ่มักเป็นตัวผู้ส่วนหิ่งห้อยตัว
เมียนั้น ชอบเกาะนิ่งตามกิ่งไม้
จากการที่หิ่งห้อย ชอบอาศัยตามแหล่งน้ำที่สะอาด
ในช่วงวัยที่เป็นหนอนหิ่งห้อย
ทำให้หิ่งห้อยเป็นตัวที่บงบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ หรือ
เสื่อมโทรมของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าไปจับมันมากักขังไว้ล่ะ มันไม่สวยเท่าตอนที่มันอยู่กับธรรมชาติหรอก.ที่มา hthttp://www.tkc.go.th